รีวิว ซิ่งทะลุโซล

รีวิว ซิ่งทะลุโซล

สำหรับใครที่คิดว่าหนัง หนังไทยใหม่ล่าสุด มันเหมือน Fast & Furious ฉบับเกาหลี ก็คงจะเถียงไม่ได้ครับเพราะมันเหมือนกันจริง ๆ นั้นแหละ สปอยหนังไทย แต่สำหรับคนที่อยากหาอะไรดูใหม่ ๆ คลายเครียดผมก็แนะนำนะ เพราะนี่คือ “Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล” หนังซิ่งรถแนวติดตลกของ Netflix เกาหลี ดูหนังออนไลน์ เรื่องราวของไอ้หนุ่มที่ไปซิ่งรถเมืองนอกหาเงินผ่านธุรกิจผิดกฎหมาย ที่ถือว่าเป็นการผสมผสานหนังอาชญากรรมแนวถนัดของเกาหลี ดูหนังฟรี ผนวกเข้ากับการประลองความเร็วสไตล์หนังตระกูลฟาสต์ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้น..จะออกมาเป็นหนังฟาสต์ฉบับโคเรียนได้หรือเปล่า

ประเภท: แอคชั่น / ตลก
ผู้กำกับ: มุนฮยอนซอง
ความยาว: 138 นาที
กำหนดฉายในไทย: 26 สิงหาคม 2022 (ที่ Netflix)
นำแสดงโดย: ยูอาอิน, โกคยองพโย, อีกยูฮยอง, พัคจูฮยอน

รีวิว ซิ่งทะลุโซล

รีวิว ซิ่งทะลุโซล

รีวิว ซิ่งทะลุโซล เรียกได้ว่าวงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของเกาหลี ซิ่งทะลุโซล พากย์ไทย ยังคงเสิร์ฟ Vibe แนวทางเรโทร (Retro) ออกมาให้ชาวโลกได้ลองลิ้มชิมรสกันอยู่เรื่อย ๆ นะครับ มีทุกแนวจริง ๆ ล่าสุดก็มีแนวแอ็กชันอาชญากรรมไล่ล่า ที่มีแบ็กกราวนด์ย้อนไปในยุค 80’s อย่าง ‘Seoul Vibe’ หรือ ‘ซิ่งทะลุโซล’ เรื่องนี้แหละครับ

ตัวหนังเคลมว่าเป็นหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ที่ทุ่มทุนสร้าง และ ขนนักแสดงหัวแถวของเกาหลีใต้มาแบบยกแพ็ก ทั้ง ยูอาอิน (Yoo Ah-in) จาก ‘Voice of Silence’ (2020), โกคยองพโย (Go Kyung-Pyo) และ คิมซองกยุน (Kim Sung-Kyun) จาก ‘Reply 1988’ (2015–2016), พัคจูฮยอน (Park Ju-hyun), องซองอู (Seong-wu Ong), อีคยูฮยอง (Kyoo-hyung Lee), และ มุนโซรี (Moon So-ri) เป็นต้น

อย่างที่เกริ่นไปว่า ตัวเรื่องนั้นกำเนิดเกิดขึ้นในห้วงเวลาที่เกาหลีใต้กำลังเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ณ กรุงโซลในปี 1988 (Seoul 1988) สายตาของคนเกาหลีใต้ทุกคู่กำลังจับจ้องไปที่วันเปิดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งแรกของประเทศ ในขณะที่แก๊งอาชญากรรมใต้ดิน ที่นำโดย ประธานคังอินซุก (Moon So-ri) และ อีฮยอนกยูน (Kim Sung-Kyun) ทหารมือขวาคนสนิท กำลังวางแผนลักลอบขนเงินแบบลับ ๆ อัยการอันพยองอุค (Oh Jung-Se) จึงต้องการที่จะสึบหาข้อมูลเพื่อจับกุมบุคคลสำคัญระดับวีไอพีในคดีข้อหาฟอกเงินระดับชาติ

เรื่องย่อ

รีวิว ซิ่งทะลุโซล

Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล เป็นเรื่องราว ดูหนังซิ่งทะลุโซล ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผู้คนในกรุงโซลต่างทวีความตื่นเต้นในช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนจะถึงพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปี 1988 นักซิ่งจากทีมซางกเยดงซูพรีมได้รับข้อเสนอที่มิอาจปฏิเสธ และ ต้องเข้าไปพัวพันกับการสืบสวนคดีเงินสินบนของบุคคลสำคัญ โดยมีสมาชิกประกอบด้วย ดงอุค นักดริฟต์มือหนึ่ง, ดีเจจอห์น, บ๊กนัม ผู้นำทาง, ยุนฮี เจ้าแห่งการปลอมตัวบนมอเตอร์ไซค์ และ จุนกี แมคไกเวอร์แห่งซางกเยดง ปฏิบัติการของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว!

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ซิ่งทะลุโซล

ถึงแม้ว่า Seoul Vibe จะเป็นหนังที่สร้างมาเพียงลงจอสตรีมมิ่ง seoul vibe แก๊งซิ่งทะลุโซล แต่ต้องยอมรับเลยว่างานสร้างไม่ใช่เล่น ๆ เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าหนังได้ทุนสร้างจำนวนไม่น้อยเลย โดยหนังได้ “มุนฮยอนซอง” ผู้กำกับหนุ่มที่เคยแจ้งมาจากหนังดัง As One เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้โดดเด่นสักที การได้ก้าวขึ้นมาหยิบจับทำหนังสเกลที่ใหญ่ ๆ ขนาดนี้ ก็ถือว่าทำได้น่าพอใจตามมาตรฐาน ที่น่าเสียดายหน่อย ๆ ตรงที่หลายองค์ประกอบยังดูธรรมดา และ ไม่ได้โดดเด่นสักเท่าไหร่

เส้นเรื่องของ Seoul Vibe เหมือนจะดูซับซ้อน และ มีมิติเงื่อนงำ แต่กลับถ่ายทอดออกมาได้ยังไม่ค่อยกลมกล่อมสักเท่าไหร่ หนังยังขาดเสน่ห์บางอย่างไปอย่างน่าเสียดาย พาร์ทการแข่งรถแข่งซิ่งต่าง ๆ ก็ทำออกมาให้รู้สึกเพียงเฉย ๆ ไม่ได้ตื่นตาหรือรู้สึกว้าวอะไรแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพราะว่าหนังแนวนี้เราได้เห็นกันมาหลายเรื่อง แค่หนังตระกูลฟาสต์ก็ดูกันไป 9 ภาคแล้ว มันจึงเป็นโจทย์ที่ยากที่จะสร้างความแตกต่างได้

คอนเซ็ปต์ของ Seoul Vibe ถือว่าได้ว่าค่อนข้างน่าสนใจอยู่ โดยเฉพาะการใช้ฉากหลังในช่วงยุคปี 1988 ของเกาหลีใต้ ที่ถือว่าเป็นยุคที่มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงในสังคมเกาหลีอีกปีนึงเลยทีเดียว ทั้งได้เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิก และ อัตราการคอร์รัปชันในยุคนั้นค่อนข้างสูงไม่เบา เพียงแต่ว่าเมื่อหนังนำมาปรุงแต่งเป็นบทหนังออกมาแล้วนั้น ยังดูขาด ๆ เกิน ๆ และ ให้รสชาติที่ยังอร่อยไม่สุดทางสักเท่าไหร่

แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้มีจุดโดดเด่นสุด ๆ ก็ตรงที่แคสตติ้งนักแสดงชุดใหญ่ บอกได้เลยว่ามีดารารับเชิญโผล่มาร่วมแจมเพียบ ขณะที่ทีมนักแสดงแต่ละคนก็ถือว่าเล่นได้ตามมาตรฐาน “ยูอาอิน” นำทีมมาในเรื่องนี้ ถึงเขาจะถูกวางตัวให้มาเป็นนางแบกของหนังเรื่องนี้ แต่บทบาทในหนังก็ไม่ได้ทำเขาโดดเด่นกว่าใครอื่นเกินไป แต่ก็ยังไม่ได้กลืนไปกับท้องเรื่อง การแสดงของเขาก็ยังให้มาตรฐานระดับมืออาชีพที่แสดงให้เห็นว่าต้องทำยังไง

รีวิว ซิ่งทะลุโซล

รีวิว ซิ่งทะลุโซล ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหมือนหนัง Fast & Furious ฉบับเกาหลี Seoul Vibe ซิ่ง ทะลุ โซล พากย์ไทย เพราะเนื้อเรื่องคล้ายกันคือ พระเอกเป็นพวกซิ่งรถ และ มาทำงานให้ตำรวจ แต่ต่างกันตรงที่หนังเรื่องนี้มันไม่ได้เท่หรือบู๊แบบเดือด ๆ เหมือน Fast แต่มันคือหนังฟามเวอร์ชั่นตลกโปกฮา แถมในหนังก็เป็นยุค 80 ทำให้รถที่ใช้นี่อย่างวินเทจเลย คือเป็นหนังที่เอาไว้ดูแก้เครียด เบาสมอง ในด้านของบทนั้น

ส่วนตัวผมมองว่าทำได้ดีระดับนึงเลยนะ แม้ว่าหนังจะเน้นไปที่ความตลก และ เฮฮา แต่ก็ยังมีบางช่วงที่แฝงอะไรบางอย่างไว้ ทั้งจุดยืนของอัยการฝั่งพระเอกที่แกดูขำ ๆ แต่ก็มีจุดยืนที่ชัดเจนมาก หรือตัวละครพระเอกที่แม้จะดูชิว ๆ

แต่ลึก ๆ ก็ยังเป็นแค่วัยรุ่นที่คิดไม่ค่อยได้ ผมชอบฉากที่พระเอกคุยกับอัยการตอนช่วงท้ายมาก ที่พระเอกเลือกจะหนี เพราะทำไปก็เสี่ยงเปล่า ๆ และ เขาบอกว่าเขาสนแต่รถ ไม่ได้สนเรื่องการเมืองบ้าบออะไรหรอก คือซีนนี้เป็นซีนที่ดึงอารมณ์พอสมควร จากตลกมาทั้งเรื่องมาจริงจังเฉย ซึ่งผมก็มองว่ามันทำให้หนังครบรสดี

Seoul Vibe ซิ่งทะลุโซล เป็นหนังแอ็กชันที่มีดีในแง่ของความเป็นเรโทร การสะท้อนยุคสมัยที่ทำออกมาได้ดี เพียงแต่ว่าภาพรวมของหนังแทนที่มันจะออกมาเป็น Fast & Furious เวอร์ชันขายขำ ขายแอ็กชันซิ่งมัน ๆ โม้ ๆ

แต่มันดันทำออกมาได้ออกมาไม่มีแรง ไม่ตื่นตาเอาซะเลย ความเบียวก็ไม่สู้ ความบู๊ก็ไม่ค่อยซิ่ง ตัวหนังก็เลยทำออกมาได้ทั้งไม่ Fast และ ไม่ Furious เป็นงานหนังแอ็กชันที่เหมาะแก่การกดเซฟไว้ดูตอนว่างจัด ๆ หรือเอาไว้ถอดสมองดูแก้เครียดก็ถือว่าไม่เลวครับ อย่าดูมันในฐานะหนังบล็อกบัสเตอร์ก็พอ

บทสรุป

โดยสรุปแล้วนั้น Seoul Vibe เป็นหนังขาซิ่งร่อนกรุงโซลจากเกาหลีใต้ ที่อาจจะยังไม่ได้ซิ่งฉลุยขนาดนั้น บทหนังยังค่อนข้างอ่อน การเล่าเรื่องยังขาดเสน่ห์ในแบบที่หนังเกาหลีน่าจะทำได้ยิ่งกว่านี้ แต่กระนั้นทีมแคสติ้งนักแสดงของเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแม่เหล็ก และ ไฮไลต์ของเรื่องนี้ ที่ช่วยทำให้ภาพรวมของหนังสามารถประคับประคองไปตลอดทางได้อยู่ ฉากซิ่ง และ เชือดเฉือนต่าง ๆ ยังไม่ค่อยคม แต่ก็ยังพอเพลินดีได้ในระดับหนึ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น