รีวิว ทวงคืน

1

รีวิว ทวงคืน เนื้อเรื่องโดยรวม

รีวิว ทวงคืน หนังตลก สยองขวัญผลงานการกำกับของ แดน-วรเวช ดานุวงศ์ ที่ตกผลึกเอาชีวิตรักของตัวเองมาสร้างเป็นโจทย์ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคู่รักอินฟลูเอนเซอร์ต้องไปร่วมชะตากรรมหนีผีด้วยกัน แต่ให้ตายเถอะ ทำไมมันเป็นหนังที่ช่างน่ารำคาญได้ถึงเพียงนี้

อาจจะเป็นรีวิวที่มาช้า เพราะตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าจะควรเขียนรีวิวนี้ขึ้นมาหรือเปล่า เนื่องจากตลอดเวลาที่ชมภาพยนตร์เรื่อง ตัวเราเองกลับรู้สึก “หงุดหงิด” การกระทำตัวละครในเรื่องตลอดเวลา ถึงแม้เราจะรู้อยู่แก่ใจว่าพฤติกรรมงี่เง่าของตัวละครในเรื่องจะนำพาผู้ชมไปสู่มุกตลก หรือจังหวะจะโคนในการให้ผีโผล่มาหลอกพวกเขา แต่เมื่อเรารู้สึกไปตั้งแต่แรกแล้วว่า สิ่งที่พวกเขาทำ มันถือเป็นว่า “สิ่งต้องห้าม” ในหนังสยองขวัญ เราเลยอดไม่ได้ที่จะขัดใจและตั้งคำถามอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าหากเป็นมนุษย์จริงๆ เราจะเลือกแก้ปัญหากันแบบพวกเขาไหม

อันที่จริงแม้ว่าการหยิบชีวิตสุดหวานชื่นระหว่างแดนและ แพทตี้ อังศุมาลิน มาต่อยอดให้กลายเป็นบทภาพยนตร์ ก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลก แต่มันไม่ดูเขินๆไปหน่อยเหรอที่ต้องประกาศให้โลกรู้แบบโจ่งแจ้งขนาดต้องกลายมาเป็น หนังขนาดยาวสักเรื่อง แม้ว่าความสัมพันธ์ของตัวละครของดิน (แดน วรเวช) และพลอย (แพตตี้ อังศุมาลิน) ในหนังจะสวนทางกับชีวิตจริง เพราะทั้งสองตัวละครนี้กำลัง “แสร้งรัก” กันเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ (อาชีพยูทูบเบอร์) แต่การตัดสินใจสร้างคอนเทนท์ชิ้นสุดท้ายเพื่อส่งงานให้กับบริษัทแหวนเพชร เลยกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องทู่ซี้อยู่ด้วยกันต่อไป

2

ความวุ่นวายยังไม่จบเมื่อทั้งสองต้องมาพบกับ บริบูรณ์ (บีม กวี ตันจรารักษ์) ไลฟ์โค้ชที่ใช้ลูกน้อยมาทำมาหากิน และตั้งใจหนีจากการตามทวงคืนสิทธิ์ในการเลี้ยงลูกจากภรรยาของตัวเอง ส่งผลให้ทั้งสามคนต้องร่วมหัวจมท้ายเดินทางไปด้วยกัน แต่ความซวยก็บังเกิดเมื่อดินขับรถออกนอกเส้นทาง และประสบอุบัติเหตุ ลุงพล (สมชาย เข็มกลัด) ชายแปลกหน้าจึงอาสาที่จะพาทั้งสามไปพักแรมค้างคืนที่บ้านร้างเก่าแก่กลางทุ่งข้าวโพดอันห่างไกลผู้คน

ตามเซนส์ของคนปกตินั้น คงจะกระตุกคิดตั้งแต่แรกแล้วว่า “บ้านร้างกลางทุ่งข้าวโพด” นั้นคงมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ๆ แต่เมื่อทั้งสามตัดสินใจจะพลิกวิกฤตให้กลายเป็นโอกาสในการถ่ายคอนเทนท์แนวล่าท้าผี ความหายนะเลยตามมาตามสูตรหนังตัวละครวิ่งหนีผี

ปัญหาประการสำคัญอยู่ที่การกำกับของตัวแดน วรเวช ที่ประสบปัญหานี้มาตั้งแต่หนังสองเรื่องแรกทั้ง “คืนวันเสาร์ถึงเช้าวันจันทร์” (2555) และ “ฤดูที่ฉันเหงา” (2556) คือเขาไม่สามารถร้อยเรียงหนังทั้งเรื่องให้ดูราบรื่นไปได้ตลอดทาง สิ่งที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้เหมือนเป็นสถานการณ์ที่ถูกปะกาวเข้ากับฉากก่อนหน้า เรียงร้อยแบบนี้ไปเรื่อยๆจนเราเองรู้สึกว่าหนังวนอยู่กับที่ไม่ไปไหน จนสุดท้ายเราก็เกิดความรำคาญการดิ้นรนเอาตัวรอดของตัวละคร จนแอบสาปให้พวกเขาตายๆไป หนังจะได้จบและเราจะได้กลับบ้านไปนอนบนเตียงนุ่มๆซะที

รีวิว ทวงคืน เรื่องย่อ

ทวงคืน เป็นเรื่องราวของคู่รักยูทูบเบอร์ พลอย กับ ดิน คู่รักที่หลายคนอิจฉามากที่สุดในประเทศ แต่ความรักของพวกเขากำลังดำเนินมาถึงตอนจบ! กับการบอกเลิกออกสื่อที่จะช็อกสนั่นประเทศ เมื่อรับงานสุดท้ายจากสปอนเซอร์ที่จำเป็นต้องแกล้งรักหลอน ๆ ก่อนจะตั้งใจบอกเลิกกันไปเนียน ๆ ในคลิปสั่งลา และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของการผจญภัยสุดวายป่วงและสยองพองขนที่จะเกิดขึ้นรอบตัวพวกเขา

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ อย่างการที่มีแฟนคลับสร้างเพจ  ‘ทวงคืนแพตตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช’ ขึ้นมาเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ และสร้างกระแสนิยมจนมีผู้ติดตามกว่า 1 แสนคน กลายมาเป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้ผู้กำกับและศิลปินมากความสามารถอย่าง แดน วรเวช ลุกขึ้นมาเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เรื่อง ‘ทวงคืน’ ด้วยตัวเอง พร้อมหยิบเอากระแสของเขาและแฟนสาวอย่าง แพตตี้ อังศุมาลิน มาใช้เป็นอาวุธทางการตลาด แต่ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์นอกจอของทั้งคู่ก็กลายเป็นปัจจัยสำคัญของการเล่าเรื่องด้วยเช่นกัน

ภาพยนตร์เรื่อง ทวงคืน มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจครับ โดยเฉพาะกับความขัดแย้งทั้งภายในและระหว่างตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น การที่ดินและพลอยนั้นเลิกรากันไปแล้วแต่ต้องมาทำตัวรักกันเพื่อสร้างคอนเทนต์ ขณะที่บริบูรณ์นั้นเป็นคนที่มีชีวิตครอบครัวล้มเหลวและกำลังพยายามกอบกู้มัน นอกจากนี้เมื่อมองลึกลงไปในแต่ละตัวละครแล้ว พวกเขาทั้ง 3 คนล้วนมีบางสิ่งที่สอดรับและเติมเต็มซึ่งกันและกันได้อย่างลงตัว

3

ทั้ง 3 ตัวละครถูกโยนเข้าสู่สถานการณ์อันแสนฉูดฉาดและอึกทึกครึกโครมครับ โดย ทวงคืน เลือกวางตัวเองเป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ผสมผสานกับความระทึกขวัญครับ อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ยังไม่สามารถเกลี่ยทุกอย่างให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันได้

โดยฝั่งของความสยองขวัญนั้นภาพยนตร์สามารถสร้างบรรยากาศอันน่าสะพรึงกลัวได้ดีทีเดียวครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อภารกิจหลักของตัวละครคือการสร้างคอนเทนต์แล้ว หลายต่อหลายฉากของภาพยนตร์จึงให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์แนว Found Footage ซึ่งทำให้ผู้ชมลุ้นตามไปพร้อมกับตัวละครครับว่า อะไรจะโผล่เข้ามาในเฟรมของพวกเขาบ้าง

แต่ถึงกระนั้นภาพยนตร์ก็ใส่พลังมาเกินไปจนล้น ด้วยการเน้นสร้างโมเมนต์ Jump Scare ให้กับเรื่องราวมากเกินจำเป็น อีกทั้งเมื่อภาพยนตร์เลือกจะสอดแทรกมุกตลกลงไปในสถานการณ์ด้วยแล้ว ทำให้ทุกอย่างดูทีเล่นทีจริงมากกว่าจะหายใจไม่ทั่วท้องอย่างที่ควรจะเป็น รวมรีวิวหนัง

ประเด็นตกผลึก

ประเด็นตกผลึกจากภาพยนตร์เรื่อง ทวงคืน ที่ผมจะชวนผู้อ่านทุกท่านมาคุยกันในวันนี้ก็คือการรักษาคนที่มีค่าของเราให้ดีที่สุด ภาพยนตร์เล่าประเด็นดังกล่าวผ่านตัวละครหลักทั้ง 3 คนครับ นำโดย ดินและพลอย คู่รักที่เลิกกันแล้วแต่ต้องมาทำคอนเทนต์ร่วมกันอย่างไม่เต็มใจนัก ตามมาด้วย บริบูรณ์ ไลฟ์โค้ชที่ใช้ลูกในการสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาเลี้ยงลูกไม่เป็นเลย โดยทั้ง 3 ตัวละครนั้นมีจุดร่วมอย่างหนึ่งก็คือ พวกเขาไม่ประสบความสำเร็จด้านความสัมพันธ์เลย

สถานการณ์ของอันแสนวุ่นวายของภาพยนตร์ผูกโยงเหล่าตัวละครเข้าหากัน พร้อมกับโยนคำถามสำคัญให้กับพวกเขาครับว่า เพราะอะไรพวกเขาถึงมาเห็นคุณค่าของคนใกล้ตัวในช่วงเวลาอันแสนคับขันแบบนี้ ทำไมดินและพลอยถึงสามารถมองเห็นแง่ดีของอีกฝ่ายได้ชัดเจนกว่าช่วงเวลาที่พวกเขายังรักกันอยู่

และทำไมบริบูรณ์ถึงพร้อมทำทุกอย่างเพื่อจะปกป้องลูกชายตัวน้อยของเขา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยแม้แต่จะอุ้มลูกด้วยซ้ำ คำตอบสำคัญที่ภาพยนตร์มอบให้นั้นตั้งอยู่บนคอนเซ็ปต์ของคำว่า ‘ทวงคืน’ ซึ่งถูกนิยามว่าเป็นวิญญาณร้ายจากอดีตชาติของเหล่าตัวละครนั่นเอง

4

ภาพยนตร์ยังเล่าให้ผู้ชมเห็นอย่างชัดเจนครับว่า ตัวละครทั้ง 3 คนล้วนแล้วแต่มีโอกาสที่จะกอบกู้ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ทุกเมื่อ แต่พวกเขาก็เลือกที่จะละเลย และมองข้ามโอกาสเหล่านั้นเพียงเพราะว่ามันอยู่ใกล้ตัวเกินไป

ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นการทวงคืนอาจไม่ได้มาในรูปแบบของวิญญาณร้ายจากชาติปางก่อน แต่มันอาจจะมาในรูปแบบของสิ่งที่เราไม่อาจควบคุมหรือต้านทานได้ครับ เช่น เวลา , ธรรมชาติ , โรคภัยไข้เจ็บ , อุบัติเหตุ และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งการทวงคืนในบางรูปแบบนั้นก็อาจจะไม่มีโอกาสให้เราได้กอบกู้ความสัมพันธ์เหมือนกับในภาพยนตร์ก็เป็นได้ ดูหนังออนไลน์

ดังนั้นสิ่งที่ภาพยนตร์เรื่อง ทวงคืน บอกกับผู้ชมอย่างชัดเจนก็คือ จงกอดความสัมพันธ์อันมีค่าของเราเอาไว้ให้แน่นที่สุด จงหวงแหนช่วงเวลา ใส่ใจความรู้สึก ประคับประคอง และเดินหน้าไปยังเป้าหมายที่วางเอาไว้ร่วมกันอย่างมีความสุข เพราะไม่มีใครรู้ครับว่าชีวิตของเราและคนใกล้ตัวนั้นจะถูกทวงคืนเมื่อไรกันแน่

ทวงคืน ความรู้สึก หลังดูจบ

สนุก เสพง่าย เพลิน เสิร์ฟความฟินของคู่จริง แดน – แพทตี้
และครบรส ทั้งน่ากลัวกับจังหวะ jump scared มีมุกตลก สร้างเสียงหัวเราะได้เรื่อยๆ และตบท้ายด้วยแง่คิดเรื่องความรัก ที่แดน วรเวชถนัด เช่นว่า
” บางครั้งเราก็ไม่รู้ว่า คนข้างตัวสำคัญกับเราแค่ไหน  จนเมื่อวันที่เรากำลังจะเสียเขาไป เพราะมัวแต่ความรู้สึกของตัวเอง
กว่าจะรู้ว่าเขาสำคัญ เราก็กำลังถูก ทวงคืน ของรัก ของเราไปอย่างน่าเสียดายซะแล้ว….”

แนะว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ เหมาะกับทุกความสัมพันธ์
ทั้งคนมีแฟนอยู่  ก็ควรค่ากับการพาไปดู  เพื่อรักษาเอาไว้ให้ดี
ใครที่ความสัมพันธ์กำลังระส่ำ แนะนำว่า ลองพาแฟนไปดูเรื่องนี้ก่อน อาจได้แง่คิดบางอย่าง  ที่ทำให้ความสัมพันธ์เดินต่อได้

ส่วนคนโสด ก็ควรชวนใครสักคน ไปดูเช่นกัน
เพราะอาจมีซีนให้เราได้ซุก ได้ซบ ทั้งฉากตกใจ และ ฉากหวานๆ
ที่สำคัญขอชื่นชม พี่เต๋า สมชาย ตัวขโมยซีน ออกมาสั้นๆ แต่ปัง เรียกเสียงฮา และ ความตกใจ  ทุกซีน ส่วนพี่เต๋า เศรษฐพงษ์ ก็หล่อ กระชากใจเสมอ พลิกบทบาทครั้งสำคัญด้วยเรื่องนี้
แต่จะพลิกยังไง ไปติดตามกันเอาเอง รีวิวหนังไทย

5

สิ่งที่ชอบ
– งานโปรดักชั่นดีมาก ซีจีก็ดี
– แพทตี้ยังมีเสน่ห์เหมือนเดิม ติดเล่นใหญ่(แต่ก็ตามโจทย์หนังแหละเนาะ)
– บีม กวี เป็นไลฟ์โค้ช คาแรคเตอร์เหมือนไลฟ์โค้ชที่เรารู้จักเลย (แต่ปมช่วงท้ายแอบคลี่คลายง่ายไปหน่อยไหมนะ)
– เต๋า เศรษฐพงศ์ และ เต๋า สมชาย คือMVPที่ดีงามส่งเสริมหนัง คนกรี๊ดกันเต็มเลยในโรง อิอิ

สิ่งที่ไม่ชอบ
– คาแรคเตอร์และจังหวะโบ๊ะบ๊ะบางทีดูลำไยมาก แบบอิหยังวะ
– ซีนจับแพะชนแกะ อีรุงตุงนัง วายป่วงแบบเซอเรียลล้นไปหน่อย
– จังหวะหนังทีเล่นทีจริง เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สับสวิทซ์ไวไปปรับอารมณ์ตามไม่ทัน
– ภาพมืดไปช่วงกลางเรื่อง
– เล่าเรื่องแอบงงไปหน่อยในบางช่วง (แต่ไอเดียแปลกน่าสนใจดี)

รีวิว ทวงคืน นักแสดง

ทวงคืน เป็นภาพยนตร์ไทยแนวโรแมนติกคอมเมดี-สยองขวัญ ของค่ายเอ็ม พิคเจอร์ส และเลเซอร์แคท เป็นผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องที่ 4 ของวรเวช ดานุวงศ์ ซึ่งยังได้นำแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ร่วมด้วยอังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา, กวี ตันจรารักษ์, สมชาย เข็มกลัด, และ เศรษฐพงศ์ เพียงพอ เข้าฉายในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

6
นักแสดง แสดงเป็น
วรเวช ดานุวงศ์ ดิน
อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา พลอย
กวี ตันจรารักษ์ บริบูรณ์
สมชาย เข็มกลัด ลุงพล
เศรษฐพงศ์ เพียงพอ ขุนอำมหิตตราชัย

สรุปภาพรวม ทวงคืน

ทวงคืน หนังผีเรื่องล่าสุดของค่ายเอ็มพิคเจอร์ ที่มีจุดขายชัดเจนคือ ขาย แดน-วรเวช กับ แพตตี้-อังศุมาลิน แบบเน้นๆ นอกนั้นดูจากหนังตัวอย่าง ข่าวสาร ทวงคืน แทบจะไม่มีอะไรดึงดูดให้เข้าไปชม แต่เอาเข้าจริง ทวงคืน เป็นหนังผีไทยที่มีอะไรๆ ชวนติดตามไม่น้อย

ทวงคืน ไม่เพียงแค่เป็นหนังผีเท่านั้น ยังมีเรื่องรักโรแมนติกดราม่า และอารมณ์แทรกอยู่ด้วยเป็นหนังที่มีความหลากหลายปนๆ กันอย่างละนิดละหน่อย ในหนังเรื่องเดียว ทั้งหนังผีเน้นน่ากลัวๆ หนังผีเน้นขำๆ แนววัยรุ่น หนังโร้ดมูฟวี่

การนำเล่าเรื่องชวนให้นึกถึงหนังคัลท์ของญี่ปุ่นๆ ตัวละครติ๊ดๆ แนวๆ การ์ตูนๆ หรือหลุดมาจากมังงะ หนังสร้างความน่ากลัวจากบรรยากาศรอบๆ ข้าง รอบตัวๆ บ้านเก่าที่น่ากลัว ของโบราณของเก่า ไร่ข้าวโพดความมืดๆ ของภาพ โดยอาจจะไม่เน้นผีหลอกผีน่ากลัว ไม่ต้องมาเยอะไม่ต้องมามากมาย ไม่ต้องมาแบบถี่ๆ แต่ก็ทำให้สะดุ้งตกใจได้ในหลายฉาก

ภาพของหนังชวนให้นึกถึงหนังในแนวแบลร์ วิทช์โปรเจกท์ ตามดูตัวละครถ่ายภาพเหตุการณ์ผ่านกล้อง เพียงเรื่องนี้ย้ายมาเป็นการตามตัวละครผ่านการถ่ายคลิป การเห็นผีผ่านกล้อง แต่ไม่ทำให้น่าเบื่อหรือซ้ำซากจำเจผ่านหน้าจออย่างเดียว ตัดสลับไป-มา ภาพสถานที่ที่ตัวละครกำลังถ่ายทำ อารมณ์ประมาณหนังซ้อนหนัง หรือประมาณตามดูคนกำลังถ่ายคลิป

7

แดน-วรเวช ดานุวงศ์ เหมาหมดทั้งเขียนบท กำกับ และแสดงนำเองในด้านเบื้องหลังถือว่า แดน สอบผ่าน ทำได้ดี การกำกับที่ดูลงตัว มีไอเดียมีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี บทหนังที่ชวนติดตาม ชวนหาคำตอบ มีครบทุกอารมณ์ สนุก/รัก/เศร้า/ลุยๆ/บู๊ๆ

แพทตี้-อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์ รับบท พลอย ที่น่ารัก สวยใส มากๆ งัดความรัก ออร่า ความสดใส ออกมาผ่านหน้าจอจนทำให้เกือบจะลืมไปเลยว่ามาดูหนังผีหรือฉากดราม่า ก็ทำเอาจุกในอกไปกับเธอเลยทีเดียว บีม-กวี ตันจรารักษ์ เล่นเรื่องนี้ได้อย่างน่ารักๆ ลื่นไหล ฉีกลุคเดิมๆพระเอกใสๆ ที่คุ้นกันดี มาเล่นบทเฮฮา บทโค้ชบริบูรณ์ กลายเป็นตัวสร้างรอยยิ้ม เสียงฮา และเรียกน้ำตาให้กับคนดู เต๋า-สมชายเข็มกลัด ยังคงมาพร้อมกับบุคลิกความเป็น เต๋า-สมชาย ที่ดูดิบๆ ดูน่ากลัวมีความลึกลับ

แต่ในขณะเดียวกันตัว ลุงพล ก็ทำให้หนังสนุก มีความผ่อนคลายและเป็นตัวสร้างมุขขำๆ ทั้งจากท่าทาง และบทสนทนา เต๋า-เศรษฐพงศ์ เพียงพอ  ในบท ขุนอำมหิตตราชัย หรือ นายทองก้อนหัวหมู่ทะลวงฟ้า แรกๆ อาจจะดูไม่เหมาะ ไม่เหี้ยม ดูเด็กๆ ไป แต่พอหนังเฉลยปม ตัวละครตัวนี้ออกมาต้องบอกเลยว่า เต๋า เล่นได้อย่างน่ารักเข้ากับเรื่อง น้องเวกัส-ฑีฆวิชช์ ฤาชาฤทธิ์ มารับบท น้องบารมีมีทั้งยิ้ม ร้องไห้ งอแง ขายความน่ารักในตัวเด็กน้อยล้วนๆ และยังมีเสนาหอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค มาร่วมแจม เปิดหัวปิดท้ายกับบทเจ้าของบริษัทขายแหวน ต้นเรื่อง ในบุคลิกที่ตัวเองที่มากำลังพอดีๆ เพิ่มรอยยิ้มให้กับหนัง รีวิวหนังตลก

และที่ขาดไม่ได้ต้องมี คือ เพลงประกอบ ชัดเจนในความเป็นเพลงในสไตล์ของ แดน, บีม และมี แพตตี้ มาร่วมร้องด้วย หนังใส่เพลงมาในช่วงจังหวะที่ใช่ ทวงคืน หนังผีเล็กๆ ไม่ต้องอลังการงานสร้างมากมายมีครบทุกรสในแบบของหนังผีในแบบของคนรุ่นใหม่คนรุ่นนี้ หนังอาจดูเรื่อยๆ เนือยๆ ขาดๆ เกินๆ ไปบ้าง แต่ถ้ามองในแง่ของความบันเทิงทวงคืน ตอบโจทย์ได้ดี สนุก ทั้งหลอนในแบบของเมื่อคนกําลังจะ“หมดรัก” แต่ดันมีผีมาขอทัก “ทวงคืน” ทวงคืนสนุกโดนใจ  8/10หัวกะโหลก

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น