รีวิว อันธพาล

รีวิว อันธพาล

สวัสดีครับมาเจอกันเวลาเดิมอีกแล้วนะครับ ครั้งนี้ เป็นหนังไทยปี 2555 ที่เหมือนผมจะจำได้ว่าสมัยนั้นเป็นที่ฮือฮาเอาอย่างมาก หนังไทยยุค90 ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน ก็ยังคง ถูกพูดถึงมาเสมอ ๆ “อันธพาล” ผลงานกำกับล่าสุดของผู้กำกับก้องเกียรติ สปอยหนังไทย โขมศิริ น่าจะเป็นอีกหนังไทยที่โดดเด่นของปีนี้ และ น่าจะได้เข้าชิงรางวัล ดูหนังออนไลน์ ด้านภาพยนตร์จากหลายสำนักเมื่อมีการประกาศกันปีหน้าครับ เพราะเป็นหนังไทย ดูหนังฟรี ที่มีงานสร้างที่มีความละเอียด ปราณีต มีการแสดงอันยอดเยี่ยม และ มีวิธีการเล่าเรื่องที่สร้างสรรค์ และ น่าสนใจในแบบที่ยังไม่เคยเห็นหนังไทยเรื่องไหนทำมาก่อน นอกจากนี้แล้วยังเป็นหนังไทยที่ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่าควรให้การสนับสนุนครับ ในยุคที่อันธพาลโด่งดังไปทั่วราชอาณาจักรของเมืองไทย เหล่าอันธพาลต่างถูกยกย่องว่าเป็นฮีโร่ ผู้คนมากมายต่างนับหน้าถือตาในยุคนั้น ก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น

ประเภท: แอคชั่น / ดราม่า
นำแสดงโดย: กฤษฎา สุภาพพร้อม, กฤษดา สุโกศล แคลปป์, สมชาย เข็มกลัด
กำกับโดย: ก้องเกียรติ โขมศิริ
เข้าฉายครั้งแรก: 14 มิถุนายน 2555

รีวิว อันธพาล

รีวิว อันธพาล

รีวิว อันธพาล อันธพาล เป็นเสมือนเป็นภาคต่อ อันธพาน คลองเมือง 2012 นักแสดง หรือตอนต่อให้สมบูรณ์จาก 2499 อันธพาลครองเมือง ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2540 ที่บอกเล่าถึงเรื่องราวของแก๊งนักเลงอันธพาลวัยรุ่น ที่มักขัดแย้งกัน และ ไล่ฆ่าฟันอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

ในครั้งนี้ ได้ ก้องเกียรติ โขมศิริ ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ ซึ่งเป็นผู้กำกับรุ่นใหม่ที่ได้รับการจับตามองจากผลงานเรื่องก่อนหน้านี้หลายเรื่อง ในครั้งนี้เป็นภาพยนตร์ที่เล่าจากมุมมองของตัวผู้กำกับเอง

เป็นผลงานการกำกับ และ เขียนบทของ “โขม-ก้องเกียรติ โขมศิริ” เจ้าพ่อหนังแอคชั่นหลากสไตล์แห่งวงการหนังยุคปัจจุบัน ที่มาสานต่อเสมือนกับหนังภาคต่อของ “2499 อันธพาลครองเมือง” ที่มาพร้อมกับทีมนักแสดงชายแถวหน้าของวงการทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “น้อย วงพรู”, “บิ๊ก กฤษฎา”, “เต๋า สมชาย” หรือ “เจี๊ยบ วสุ”

เรื่องย่อ

รีวิว อันธพาล

จ๊อด และ แดง เป็นนักเลงคู่หูกัน โดยที่จ๊อดยอมเดินตามหลังแดง ทั้ง ๆ ที่อาวุโสกว่า เพราะแดงเคยช่วยจ๊อดมาก่อน ขณะที่ทั้งคู่กำลังมีชื่อ เฮียเซ้ง ปังตอ นักเลงตรอกสลักหิน ขัดแย้งกับเฮียหลอเรื่องการเก็บส่วย แดงแสดงเจตนาว่าจะไม่ยอมเฮียเซ้ง จ๊อดจึงเอาด้วย จ๊อดสร้างชื่อขึ้นมาด้วยการสังหารเฮียเซ้ง จากการมัดมือด้วยเชือกแล้วดวลมีดกัน

ในขณะนั้น บริเวณตรอกสลักหิน หัวลำโพง จนถึง ตึก 7 ชั้น ในเยาวราช มีแก๊งอิทธิพลที่คุมโดยนักเลงจีนฉายา “สี่คิงส์” ที่ทำสิ่งผิดกฎหมายหมดทุกอย่าง ทั้งบ่อนการพนัน, ยาเสพติด, ค้าผู้หญิง โดยมีก๋ง เป็นเสมือนประมุขของแก๊งเหล่านี้ เมื่อก๋งเสียไปด้วยความชรา เฮียล้อจึงขึ้นพยายามมามีอิทธิพลแทน

แต่ก็ขัดแย้งกับกำนันโต้ง กำนันท้องถิ่น ขณะที่ธง และ เปี๊ยก 2 เด็กหนุ่มวัยรุ่นผู้ที่ชื่นชอบแดง และ จ๊อด เสมือนต้นแบบ จึงเข้ามาอยู่ในแก๊งด้วย ซึ่งในแก๊ง ปุ๊ ฉายา ระเบิดขวด เป็นผู้ที่บ้าคลั่งที่สุด ชอบข่มขืน และ รังแกผู้หญิง จึงขัดแย้งกับแดง ซึ่งเป็นสุภาพบุรุษกว่า จ๊อดจึงตามไปยิงปุ๊ด้วยปืนลูกซองสั้น แต่กระบอกปืนแตกพลาดไปโดนผู้หญิงคนหนึ่งเข้าตาย จึงถูกจับเข้าคุก

ส่วนแดงก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำตายขณะเดินทางไปภาคใต้ เพื่อหวังจะไปสร้างเครือข่ายใหม่ที่นั่น ส่วนปุ๊ และ ดำก็ขัดแย้งกันเอง จนยิงกันตายทั้งคู่ในที่สุด

เมื่อพ้นโทษออกมา หลังจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำการรัฐประหาร ทหารก็ขึ้นเป็นใหญ่ ผู้การคำนึง นายทหารคนใหม่ต้องการจะกำจัดอิทธิพลของแก๊งเหล่านี้ ด้วยการใช้วิธีการข่มขู่ จนในที่สุด น้าหำ คนสนิทคนหนึ่งของเฮียล้อก็หักหลังด้วยการเป็นสายให้แก่ทหาร

เฮียล้อจับได้ จึงสังหารพลอย ลูกสาวของน้าหำ ขณะที่ธง และ เปี๊ยกก็แตกกัน เมื่อธงเห็นว่าจ๊อด หลังพ้นโทษออกมา เปลี่ยนไปไม่เหี้ยมโหดเหมือนเดิม จึงไปอยู่กับเฮียล้อ ส่วนกำนันโต้งก็ถูก โอวตี๋ สมาชิกในแก๊งผู้ถนัดการใช้ปืนกลสังหารด้วยการทุบหัวด้วยหินที่ไร่อ้อย และ ยังตามไปยิงผู้การคำนึงพร้อมกับธง

ในที่สุด เมื่อกลุ่มของจ๊อดไม่เป็นที่ต้องการของเฮียล้อแล้ว ทั้ง 2 ฝ่ายจึงเปิดฉากยิงกันอย่างบ้าระห่ำ

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว อันธพาล

ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมในการใช้ความคิด 2499 น้อย วงพรู สร้างสรรค์เพื่อสร้างลูกเล่นของการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ และ น่ายกย่องในความกล้าหาญที่จะฉีกขนบการเล่าเรื่องหนังให้แตกต่างจากหนังไทยด้วยกัน

แต่อย่างไรก็ดี ผู้กำกับก้องเกียรติยังใช้การเล่าเรื่องที่แปลกใหม่เหล่านี้ได้ยังไม่ลงตัวดีพอ

โดยเฉพาะช่วงหนึ่งชั่วโมงแรกของหนัง ทั้งนี้เพราะทั้งสามวิธีการเล่าเรื่องเหมือนจะมีเรื่องราวของมันเอง และ หนังเล่าเรื่องโดยให้ความสัมพันธ์ของทั้งสามส่วนเกือบเท่า ๆ กัน มีการให้รายละเอียดที่ยิบย่อยเกินไป ทำให้มาชิงความเด่นของกัน และ กัน และ ฉุดรั้งไม่ให้อารมณ์ดราม่าของหนังในช่วงนี้ไปได้สุดทาง แม้ว่ามันจะดูเก๋ไก๋ก็ตาม

นักแสดงทุกคนทำหน้าที่ได้อยู่ในเกณฑ์พอใช้ และ ดีมาก แต่ที่โดดเด่นเป็นพิเศษคือบุญส่ง นาคภู่ เป็นบทน้าหำ นักเลงเก่าขี้คุยผู้ที่อยากหลุดพ้นจากเส้นทางนักเลงไปใช้ชีวิตเหมือนผู้คนทั่วไป เป็นบทที่ทั้งดูเป็นธรรมชาติเหมือนคนที่เราเคยเห็นว่ามีอยู่จริง และ บางขณะก็ทรงพลัง ส่วนกฤษดา สุโกศล แคลมป์ ก็ยอดเยี่ยมในการสร้างบุคลิกของจ๊อดให้ดูเป็นปุถุชนทั่วไป และ มีเสน่ห์ขึ้นจอ พาให้ชวนติดตามหนัง

องค์ประกอบที่ควรได้รับการยกย่องอีกอย่างของหนังก็คือองค์ประกอบด้านศิลป์ ทั้งการสร้างฉาก การกำกับศิลป์ การออกแบบเครื่องแต่งกาย และ ทรงผม งานเทคนิคภาพ และ ดนตรีประกอบ ที่ช่วยเนรมิตรพระนครยุค 60-70 ได้อย่างเนียบจนเหมือนพาเราหลุดเข้าสู่ยุคนั้นไปด้วยได้เลย

ทั้งยังเสริมโทนดิบเถื่อน และ รุนแรงอันเป็นลายเซ็นเฉพาะตัวของผู้กำกับก้องเกียรติให้เด่นชัดยิ่งขึ้น

รีวิว อันธพาล

รีวิว อันธพาล ภาพยนตร์ได้รับเสียงวิจารณ์ว่างานสร้าง รวมถึงการแต่งตัวทำได้ดี ผู้การคํานึง ตัวจริง ไม่แพ้ 2499 อันธพาลครองเมือง เป็นอรรถรสทางสายตาที่น่าจดจำ เช่นเดียวกับบทภาพยนตร์ ที่สามารถเก็บรายละเอียดของตัวละครได้ครบถ้วน และ มีความลึกตื้นหนาบางตามบทบาทความสำคัญของแต่ละคน

ไม่เว้นแม้แต่ตัวละครประกอบอย่างน้าหำ นักเลงรุ่นลายครามซึ่งนอกจากจะเสริมทัพในการเป็นตัวสีสันของเรื่อง ตัวละครตัวนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของชีวิตนักเลงอันธพาลออกมาได้อย่างลุ่มลึกสะเทือนอารมณ์อีกด้วย

ส่วนการแสดงต้องถือว่า กฤษดา สุโกศล แคลปป์ ที่รับบทเป็น จ๊อด และ ภคชนก์ โวอ่อนศรี ที่รับบทเป็น โอวตี๋ มือปืนผู้พิศมัยแต่เฉพาะการฆ่า เข้าถึงบทบาทได้อย่างดีมาก และ การดำเนินเรื่องยังสอดแทรกบทสัมภาษณ์จากบุคคลต่าง ๆ ทั้งชาย และ หญิง ที่เสมือนเป็นบุคคลที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น

ก็ถือว่าเป็นสีสันอย่างหนึ่งที่ไม่ได้ทำเนื้อเรื่องสะดุดแต่ประการใด เพราะมีครบทุกรสทั้งแอ็กชั่น, ตลกขบขัน, สุขเศร้า และ ซึ้ง ขณะที่ฉากแอ๊คชั่นก็ดูดิบเถื่อน สมจริง และ เสมือนจะบอกว่า ภาพยนตร์มิได้สร้างมาจากเรื่องจริงทั้งหมด แต่เป็นการอ้างอิงมาจากปากคำของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้

บทสรุป

หนังพยายามข้อเสนอเสียของชีวิตอันธพาล 2499 antapan krong muang (1997) 2499 อันธพาลครองเมือง ตีแผ่วงการอาชญากรรมในอดีต การต้องหนีหัวซุกหัวซุน ถูกขัง โดยมีใบหน้าเหยื่อตามหลอกหลอน แต่อีกทางหนึ่งก็ไม่วายสร้างภาพเท่ ๆ ของนักเลงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ผู้กำกับจึงขับเข้นเรื่องราวของมิตรภาพในหมู่นักเลง การโชว์นิสัยด้านดีของ จ๊อด ให้ดูเป็นสุภาพบุรุษ เป็นลูกผู้ชาย อย่างตอนที่เขาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไปทวงเงินหรือ ฉากที่ช่วยคนแก่ยกของตอนลงเรือ

ซึ่งมันก็ผิวเผินเกินไป ต้องรอดูว่าคนดูจะอินกับประเด็นไหน อาจไม่ใช่หนังที่ดีพร้อมหรือสมบูรณ์แบบเต็มร้อย แต่เป็นหนังที่มีองค์ประกอบทุกส่วนของงานสร้างดีเลิศ และ มีความพยายามอันน่าชื่นชมของผู้กำกับก้องเกียรติในการสร้างหนังเรื่องนี้ให้มีลูกเล่นที่แปลกแตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ อันธพาล

อาจจะไม่ได้ประสบความสำเร็จในแง่รายได้มากสักเท่าไหร่

แม้ว่าคำวิจารณ์ของหนังจะออกมาค่อนข้างดีก็ตาม โดยหนังเก็บเงินตลอดโปรแกรมฉายไปได้ราว ๆ 25 ล้านบาท แต่หนังก็ยังมีชื่อติดโผเข้าชิงบนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในปีนั้นอยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่ได้โกยรางวัลกลับบ้านไปได้สักเท่าไหร่ก็ตาม

ซึ่งเพียงแค่นี้ก็เป็นเหตุผลพอให้นักดูหนังควรให้การสนับสนุนหนังเรื่องนี้ครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น