รีวิว die tomorrow

รีวิว die tomorrow

หนังไทยใหม่ล่าสุด สวัสดีครับเป็นการกับมาอีกครั้งของนักแสดงหนังตัวพ่อสุดอินดี้อย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ กับภาพยตร์เรื่อง พรุ่งนี้ตาย หรือ ดายทูมอร์โรว์ (อังกฤษ: Die Tomorrow) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวดราม่า-สารคดี เขียนบท และ กำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ เป็นการนำเรื่องราวที่สร้างจาก 6 เหตุการณ์การเสียชีวิตอันแปลกประหลาดบนหน้าหนังสือพิมพ์มาสร้างเป็นหนังสั้นที่ไม่มีจุดเชื่อมโยงกัน และ ฉายสลับกับสารคดีว่าด้วยเรื่องมุมมองการตายของคนต่างวัย

สปอยหนังไทย ภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวผลิตโดยเวรี่ แซด พิคเจอร์ส และ จัดจำหน่ายโดยเอเชียน ชาโดว์ส นำแสดงโดย ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, พัชชา พูนพิริยะ, สิราษฎร์ อินทรโชติ, รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล มรกต หลิว, กัญญภัค วุธรา, ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, วิโอเลต วอเทียร์, กรมิษฐ์ วัชรเสถียร, ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย, จรินทร์พร จุนเกียรติ และ ค่อม ชวนชื่น อนึ่งภาพยนตร์นี้ยังเป็น 1 ใน 3 โปรเจกต์หนังที่ถูกกระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วมในงาน Thai Film Pitching Project 2016 ซึ่งจัดขึ้นที่เทศกาลภาพยนตร์กาน เมื่อปี 2016 ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ชื่อภาพยนตร์: Die Tomorrow
ผู้กำกับภาพยนตร์: เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์
นักแสดงนำ: ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, พัชชา พูนพิริยะ,​ สิราษฎร์ อินทรโชติ,​ จรินทร์พร จุนเกียรติ, วิโอเลต วอเทียร์

รีวิว die tomorrow

รีวิว die tomorrow

รีวิว die tomorrow การกลับมาอีกครั้งของเจ้าพ่อหนังอินดี้ที่มีสาวกฮิปสเตอร์ติดตามมากที่สุด (น่าจะ) ในประเทศ อย่าง เต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ หลังจากไปปล่อยของในค่ายหนังแมสอย่าง GTH มาเมื่อ 2 ปีก่อนกับ Freelance ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ รอบนี้นอกจากจะเป็นหนังที่หาทุนตามสไตล์หนังอิสระ และ ร่วมงานกับผู้กำกับภาพอย่าง นิรมล รอสส์ อีกครั้งหลังจากฟรีแลนซ์ฯ นี่ยังรวมถึงการร่วมงานกับศิลปินนักแต่งเพลงอย่างวง Plastic Plastic เป็นครั้งแรกแล้ว ยังเป็นงานที่พี่เต๋อเรียกว่า หนังส่วนตัว มากที่สุดตั้งแต่เคยทำมาเลย เพราะเป็นงานที่ทำมาสนองโจทย์ตัวเองว่า ถ้าพรุ่งนี้ตาย นี่จะเป็นหนังที่เขาภูมิใจ และ รักที่สุด

งานนี้เลยได้ทีมงาน และ ดาราที่เคยร่วมงานกับเขามาคับคั่งเลย คือโคตรคุ้มคนดู ทั้ง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, จูนจูน-พัชชา พูนพิริยะ , ทู-สิราษฎร์ อินทรโชติ, พลอย-รัตนรัตน์ เอื้อทวีกุล, ต้นหลิว-มรกต หลิว, พาย-กัญญภัค วุธรา (นักร้องนำวง My Life as Ali Thomas), ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง, วี-วิโอเลต วอเทียร์, ทราย-กรมิษฐ์ วัชรเสถียร, เมโกะ-ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย, เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ กับอีก หนึ่งตัวละครลับที่มาได้แบบเหนือชั้นคือมานอนเล่น 55 เรียกว่าไม่หวาดไม่ไหวจะจำ ถ้าเป็นหนังสตูดิโอใหญ่ นี่ต้องระดับ Love Actually แล้วล่ะ

เรื่องย่อ

รีวิว die tomorrow

ข้อมูลของหนังเรื่องนี้ เล่าได้แบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ด้วยการบอกว่ามันประกอบด้วยหนังสั้น 6 เรื่อง ที่พูดถึงเรื่องเดียวกัน คือตัวละครแต่ละตัวจะเหลือเวลาเพียง 1 วันก่อนจะตาย แต่แตกต่างในบริบทว่าเกิดขึ้นอะไรในวันนั้นบ้างเหมือนหนังเพียงตั้งคำถามเกี่ยวกับ “ความตาย”​ ที่พร้อมจะมาเยือนทุกคน เมื่อไหร่ก็ได้ และ ไม่มีใครรู้ว่า …ตัวเองจะตายจากโลกนี้ไปเมื่อใด Die Tomorrow (2017)

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว die tomorrow

หนังเล่าคอนเซ็ปต์ของความตายในมุมแบบเต๋อ ๆ ได้น่าสนใจ ตามสโลแกนหนังที่บอกว่า ก่อนวันที่เราตายมักจะเป็นวันธรรมดา ๆ วันหนึ่ง โดยหนังเล่าแบ่งเป็น 2 ส่วนการนำเสนอ ส่วนแรกเป็นงานการแสดงแบบ Fiction จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเหตุการณ์หนึ่งวันก่อนเกิดเหตุของคนแต่ละกลุ่ม โดยเอาเหล่าเหตุการณ์ตายประหลาดที่เป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์มาแต่งเติมเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างเรื่องราว

ซึ่งหลาย ๆ ตอนมีความน่าสนใจแบบต้องลุ้นเลยว่าชะตากรรมตัวละครจะเป็นอย่างไร บางตอนก็ชวนหดหู่ บางตอนก็ชวนให้คิด และ บางตอนก็ไม่มีอะไรโดยก่อนหรือหลังของแต่ละตอนจะมีข่าว ที่เขียนคล้ายบทภาพยนตร์ ให้เราอ่าน ตรงนี้ต้องตั้งใจตามนิดหนึ่ง เพราะมันจะส่งผลตรงกับตัวละครในแต่ละตอนนั้น ๆ

โดยชื่อของแต่ละตอนนั้นก็มีปรากฏบนโปสเตอร์หนัง ใครจะไปเก็บแบบละเอียดก็ดูชื่อตอนอาจจะเก็ตสารบางอย่างมากขึ้นด้วยจึงต้องมองว่านี่เป็นหนังสั้นหลากแนวที่ถูกเรียงร้อยไว้ใต้หัวข้อความตาย ใช้กลวิธีต่าง ๆ เล่าเรื่อง จะจัดว่าเป็นหนังทดลองน่าจะใกล้เคียงที่สุด

ส่วนถามว่าความป๊อป และ กวนตีนแบบเต๋อที่เคยใส่ไว้ในงานก่อน ๆ นั้น ก็ยังมีอยู่เช่นเคย เพียงแต่เหมือนคนที่แก่ขึ้นแล้วเล่าอะไรอย่างไตร่ตรองมากขึ้น ช้าลง จนบางจังหวะเหมือนหยุดเล่า แต่ก็เป็นช่วงหยุดเพื่อคิด ดูแล้วเรารู้สึกว่าพี่เต๋อไม่ใช่หนุ่มคนที่ทำ Mary is happy, Mary is happy อีกแล้ว แต่เป็นหนุ่มใหญ่ที่เล่าอะไรแบบตลกร้าย die tomorrow เรื่องย่อ

รีวิว die tomorrow

รีวิว die tomorrow ‘Die Tomorrow’ คืออัลบั้มเพลงว่าด้วยชีวิต และ ความตาย ในอัลบั้มนี้ประกอบด้วย 13 บทเพลง บางเพลงเราชอบทำนอง บางเพลงเราชอบเนื้อหา บางเพลงชอบแค่ท่อนฮุก บางเพลงก็ชอบเสียงร้อง เราอาจชอบบางเพลงเป็นพิเศษ และฟังบางเพลงแบบข้าม ๆ ไปบ้าง แต่พอฟังจบก็อาจได้ความรู้สึกต่างกันไป และ ก็เป็นไปได้ที่บางคนอาจไม่ชอบทั้งอัลบั้มเลย

เพราะเพลงอัลบั้มนี้มีท่วงทำนองที่แต่งมาให้กับคนเฉพาะกลุ่ม แต่เรามั่นใจว่าเนื้อร้องที่ผู้กำกับเขียนออกมาไม่ได้ไกลตัวใครเลย มันเป็นเนื้อที่ใกล้ตัวมาก แต่อาจมีเมโลดี้ที่ไม่คุ้นหู เอ๊ะไม่เหมือนอัลบั้มที่แล้วเลยนี่หว่า โดยรวมก็ถือว่าเป็นการฟอร์มวงใต้ดินของพี่เต๋อที่น่าประทับใจมากอีกตามเคยเพราะหนังเรื่องนี้มันพูดถึงการมีชีวิต การใช้ชีวิต และ ความตาย

ทำให้เรารู้สึกว่ามันเป็นแกนเดียวกับหนังสือธรรมะหรือการเรียนปรัชญา แต่แค่ว่าการเรียนครั้งนี้ถูกสอนออกมาผ่านหนัง ทำให้เราเปิดใจรับฟังมากขึ้น และ อยากตามดูต่อไปการดูหนังเรื่องนี้เลยทำให้เรากลับมาสรุปข้อคิดกับตัวเองมากกว่าว่าเราอยากใช้ชีวิตให้ดีขึ้น รักคนที่เราควรจะรักมากขึ้น ดูแลเอาใจใส่สิ่งสำคัญในชีวิตมากขึ้น die tomorrow คําคม

บทสรุป

แต่ถามว่ามันเป็นหนังที่มีบทสรุปให้เป็นข้อคิดไหม…ก็ไม่นะ มันไม่ได้บอกว่า ‘ข้อคิดในวันนี้ เราควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ’ มันไม่ได้พูดเลย สิ่งที่เราจับได้จากหนังคือเราจะตายตอนไหนก็ได้ จะออกจากโรงหนังแล้วตายก็ได้ หรือจะตายคาโรงในนาทีถัดมาเลยก็ได้

คือมันไม่มีอะไรบอกได้เลยว่าคนที่ตายก่อนต้องเป็นคนร่างกายอ่อนแอกว่าหรือว่าเป็นคนที่นิสัยไม่ดี คนหนึ่งเป็นเด็กน้อยที่ดูจะเข้าใจความตายได้มากเกินอายุ ขณะที่อีกคนเป็นชายสูงวัยที่อายุเกินร้อย และ พูดบางสิ่งไว้น่าคิด และ เห็นด้วยกับความคิดนั้นมาก ๆ

จะว่าไป มันก็ไม่ใช่แง่มุมอะไรใหม่ ๆ เกี่ยวกับความตายหรอกครับ ยิ่งสำหรับคนที่มีชีวิตอยู่มาช่วงหนึ่งแล้ว ก็น่าจะเคยผ่านอะไรพวกนี้มาหมดแล้ว เพียงแต่เต๋อหยิบมาเล่ารวมกันในหนังผ่านวิธีการเล่าในแบบของตัวเอง และ ผ่านตัวละครสมมติที่มาจากเรื่องจริงอีกที die tomorrow สปอย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น