รีวิว ทาสรักอสูร

รีวิว ทาสรักอสูร

หนังไทยยุค90 สวัสดีครับผม เราจะมาแนะนำหนังไทยที่ครั้งนึง ที่เคยเป็นที่โจษจัน เนื่องจากมีพล็อตเรื่องที่ดูเข้าใจง่ายๆ ไม่เครียด ตลก ฮา เกือบจะทั้งเรื่องเลยแหละครับ แต่ก็อย่างว่าแหละครับหาสาระจากหนังเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆนอกจากความตลก ที่ได้นักแสดงตลกตัวพ่ออย่าง หม่ำ จ๊กม๊ก ที่มาคราวนี้เขายังคงควบหน้าที่ กำกับเอง แสดงเอง กับหนังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังแนว ตบจูบ ของพี่เปี๊ยก พิศาล ใน ทาสรักอสูร ซึ่งจากตัวอย่างที่หลายคนได้เห็นไปแล้วก็คงจะพอมีหวังกับความฮาของหนังกันมาบ้างแหละนะ

สปอยหนังไทย จงลืมนิยายรักหฤโหดอันลือลั่นที่คุณเคยรู้จัก เพราะว่าตลกหน้าเหลี่ยม “หม่ำ จ๊กม๊ก” จะเปิดตำนานรักครั้งใหม่ที่ไม่เหมือนครั้ง­ไหน ๆ เมื่อเขาต้องรับบท “นายหัว ชายเถื่อนไร้หัวใจ ” ที่จะมาปะทะกับ “สาวเมืองกรุงแสนสวยแต่ขี้วีน” พิงกี้ สาวิกา” ตำนานรักครั้งใหม่ของเจ้านายกับทาสผู้ถูกท­ำร้ายโดยไม่มีความผิด ที่มีหัวใจเป็นเดิมพัน กำลังจะถือกำเน­ิดขึ้น ทั้งรัก ทั้งมันส์ ทั้งฮา ด้วยลีลาตบจูบ 360 องศา เมื่อ นายหัว ได้จับตัว คุณอูอี้ มาเพื่อแก้แค้นกับสิ่งที่พ่อของเธอเคยทำไว้ในอดีตนั่นเอง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี

ชื่อภาพยนตร์ : ทาสรักอสูร
ประเภทหนัง : Comedy
จัดจำหน่ายโดย : สหมงคลฟิล์ม
ผู้กำกับ : เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
วันที่เข้าฉาย : 10 กรกฎาคม 2557
นักแสดงนำ : เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, พิงกี้ สาวิกา

รีวิว ทาสรักอสูร

รีวิว ทาสรักอสูร

รีวิว ทาสรักอสูร ตำนานรักครั้งใหม่ของเจ้านายกับทาสผู้ถูกท­ำร้ายโดยไม่มีความผิด ที่มีหัวใจเป็นเดิมพัน… กำลังจะถือกำเน­ิดขึ้น ทั้งรัก ทั้งแค้น ทั้งมันส์ ทั้งฮา ด้วยลีลาตบจูบแบบ 360 องศา ใน ทาสรักอสูร

งานนี้มาพร้อมนักแสดงมากฝีมือ พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช มารับบทสาวเมืองกรุงแสนสวยขี้วีนปากร้าย ร่วมด้วยสองนางร้ายตัวแม่อย่าง อ๋อม-สกาวใจ พูนสวัสดิ์ และ อุ้ม-ลักขณา อมิตรสูญ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ อู้อี้ (สาวิกา ไชยเดช) หญิงสาวเมืองกรุงสุดไฮโซ ฟื้นขึ้นมาบนเรือลำหนึ่ง และ พบกับความจริงว่า เธอกำลังถูกลักพาตัวมายังเกาะ ๆ หนึ่ง

โดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าใครกันที่จับเธอมา และ ด้วยเหตุผลอะไรกัน จนเมื่อเรือมาจอดที่เกาะ เธอก็พบว่าคนที่จับเธอมาคือ นายหัวเพิ่ม (หม่ำ จ๊กม๊ก) เจ้าของเกาะมาดเถื่อน ผู้ที่จมอยู่กับอดีต และ ความแค้นที่มีคนมาทำร้ายจิตใจพี่สาวของตนจนต้องฆ่าตัวตายไป และ นี่คือเหตุผลที่เขาจับตัว อู้อี้ มา เพราะต้องการแก้แค้นพ่อของ อู้อี้ ที่เป็นคนทำร้ายพี่สาวของเขานั่นเอง

เรื่องย่อ

รีวิว ทาสรักอสูร

เรื่องราวรักสุดเข้มข้น เดี๋ยวก็ “ฮา” เดี๋ยวก็ “โหด” เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ “อู้อี้” (พิงกี้ สาวิกา) หญิงสาวเมืองกรุงสุดไฮโซ ฟื้นขึ้นมาบนเรือลำหนึ่ง และ พบกับความจริงว่า เธอกำลังถูกลักพาตัวมายังเกาะ ๆ หนึ่งโดยที่เธอก็ไม่รู้ว่าใครกันที่จับเธอมา และ ด้วยเหตุผลอะไรกัน

จนเมื่อเรือมาจอดที่เกาะ เธอก็พบว่าคนที่จับเธอมาคือ “นายหัวเพิ่ม” (หม่ำ จ๊กมก) เจ้าของเกาะมาดเถื่อน ผู้ที่จมอยู่กับอดีต และ ความแค้นที่มีคนมาทำร้ายจิตใจพี่สาวของตนจนเต้องฆ่าตัวตายไป และ นี่คือเหตุผลที่เขาจับตัวอู้อี้มา เพราะต้องการแก้แค้นพ่อของอู้อี้ที่เป็นคนทำร้ายพี่สาวของเขานั่นเอง ทาสรักอสูร พากย์ไทย

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว ทาสรักอสูร

สิ่งที่ชอบ ผมว่ามุมกล้องสวยดี แต่ก็ไม่ได้อลังการอะไรมากมาก ฉากที่เป็นการเก็บน้ำยาง ผมว่ามันดูเป็นชาวบ้านดีครับ และ ที่ชอบอีกอย่างก็ความโอเวอร์ในหลาย ๆ ฉาก อย่างที่ได้พูดไปแล้ว

ด้านนักแสดง และ บท บางบทคิดว่าเอามาทำไมก็ไม่รู้ หรือแบบมีเพื่ออะไร ให้หนังยาวขึ้นหรอ ไม่สนุก ไม่เห็นจะเข้าใจเลย มุขบางมุขคือแบบไม่ขำ เครียดด้วยซ้ำ เล่นอะไรอะ(โดยเฉพาะคนที่เล่นเป็นคู่หมั้นนางเอก) แต่ผมชอบตัวรองที่รับบท**เมียที่ทำงานอยู่บนเกาะ ผมว่าเล่นดีเลยนะ

ส่วนการดำเนินเรื่องตัวหนังไม่ได้มีจุดหัก จุดอะไรเลย ดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ หรือแม้แต่ตอนนางเอกเริ่มชอบพระเอก เริ่มเห็นใจ ผมว่ามันยังไม่ซึ้งพอ เช่นฉากที่นางเอกกลับมาหาพระเอก คือมีรูปนางเอกประกอบเต็มพื้นที่ไปหมด อันที่จริงนางเอกควรจะแบบประทับใจหรือกล่าวถึงสิ่งนี้หรืออะไรบ้างแต่คือ นางไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ เหมือนเป็นแค่พร็อบประกอบฉากจริง ๆ พระเอกอุตส่าวาดตั้งหลายปีเลยนะ ทาสรักอสูรเต็มเรื่อง

รีวิว ทาสรักอสูร

รีวิว ทาสรักอสูร ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ค่อนข้างตลกกับหนังของ หม่ำ จ๊กม๊ก ในยุคแรก ๆ อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งพวก บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม หรือ แหยมยโสธร ในภาคแรก แต่ก็อย่างที่รู้กันว่ายิ่งนานวันเข้าหนังของผู้กำกับคนนี้กลับค่อนข้างที่หมดมุกใหม่ ๆ มานำเสนอคนดู ตั้งแต่ จั๊กกะแหล๋น และ ล่าสุดอย่าง แหยม ยโสธร 3

แต่ก็ต้องยอมรับว่าในผลงานเรื่องใหม่อย่าง ทาสรักอสูร เมื่อได้เห็นตัวอย่างก็พอจะมีความหวังว่าพี่หม่ำเขาจะกลับมา ท็อปฟอร์ม ได้บ้าง โดยหลังจากที่ได้ไปรับชมมาแล้ว ก็ต้องว่ากันตามเนื้อผ้าว่าตัวหนัง ทาสรักอสูร อาจจะไม่ได้กลับมาท๊อปฟอร์มอย่างที่หวัง แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้น่าเกลียดจนถึงขั้นรับไม่ได้ขนาดนั้นเลยทีเดียว

โดยสิ่งที่ต้องขอชม ทาสรักอสูร คงหนีไม่พ้นไอเดียของการล้อเลียนหนัง ละครหลังข่าว แนวตบจูบ ตัวร้ายขี้อิจฉา หรือแม้แต่พระเอกขี้เก็ก ซึ่งในส่วนนี้ผู้กำกับ หม่ำ ถือว่าทำการบ้านมาดีพอสมควร คอยตามเก็บทุกเม็ดว่ามีส่วนไหนที่หนัง ละครแนวตบจูบชอบทำเปิ่น ๆ กันบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นการพูดคนเดียว, หัวเราะเสียงดัง ๆ หรือแม้แต่การที่ตัวขี้อิจฉาส่งลูกน้องไปจัดการนางเอก และ แน่นอนว่าที่เด็ดสุดคือ ฉากการตบกัน ที่ในเรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากหนังจีนแนว โจวซิงฉือ ซึ่งก็ครีเอทได้ดีพอสมควร แต่ก็อาจจะแป๊กบ้าง ฮาบ้าง ผสมปนเปกันไป เช่นเดียวกันกับมุกตลกใน ทาสรักอสูร

ซึ่งสมมุติว่ามุกตลกปล่อยออกมา 100 เม็ด ในเรื่องนี้ก็เอาเป็นว่ามีฮาสักประมาณ 30 เม็ด (ซึ่งถือว่าดี เมื่อเทียบกับหนังเรื่องล่าสุดอย่าง แหยมยโสธร 3 ที่ส่วนตัวผมไม่ฮาสักเม็ด) โดยใน 30 เม็ดนี้ก็จะมีมุกตลกเด็ด ๆ อยู่ประมาณ 40% เลยทีเดียว

ซึ่งนั่นก็นับว่าเป็นการก้าวหน้าที่ดีสำหรับหนังยุคหลัง ๆ ของเขา โดยเฉพาะมุกตลกแนวมุกชนมุก ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าจะส่งเสริมให้ออกมามากกว่า มุกตลกแนวด่าพ่อล้อแม่ เสียอีก ทาสรักอสูร netflix

สรุป

หนังมันไม่ได้สอนอะไรเลย ถ้าคิดดูผ่าน ๆ อะ ก็ไม่ได้อยากจะบอกว่าหนังแย่นะ แต่คือมุมดีมันก็มี แต่อารมณ์หลังดูจบคือเฉยมาก ไม่อินไปกับนักแสดงเลยอะ จะตลกก็ตลกไม่สุด จะเศร้าก็ไม่เศร้าให้เต็มที่

แต่ก็น่าเสียดายที่ตามสไตล์หนังตลกไทย สิ่งที่ยังทำให้ตัวหนังยังไม่ได้ไปไหนสักที คงหนีไม่พ้นการตัดต่อที่ยังคงติดรากฐานการตัดต่อแบบ มุกชนมุก ทำให้หลาย ๆ ฉากของหนังเนี่ยคิดออกได้เลยว่า จะใส่มาทำไม อยู่เป็นระยะ ๆ เลยท้ายสุดเมื่อหนังมันเกร่อด้วยวิธีการตัดต่อแบบนี้มาก ๆ

ทำให้เรื่องราวพล็อตหลักของหนังระหว่างการเสียดสี คนจน คนรวย และการพูดถึงความแค้นใน Identity ของคนเราลดลงไปทันที เอาเข้าจริง ๆ ผมคิดว่าถ้าหาก ทาสรักอสูร ลองเอากลับไปตัดต่อใหม่ ไม่ต้องขายความเป็น มุกชนมุก เยอะขนาดนี้ หนังน่าจะสนุกกว่านี้แน่นอน เพราะเพียงลำพังจากการแสดงของ หม่ำ และ พิงกี้ ในเรื่องนี้ก็เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งเหล่านั้นอีกแล้วนั่นเอง ทาสรักอสูร ดูได้ที่ไหน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น