รีวิว GHOST LAB

1

รีวิว GHOST LAB ฉีกกฎทดลองผี

รีวิว GHOST LAB นอกจากจะเป็นการหวนสู่หนังผีของ GDH แล้ว หนังเรื่องนี้ยังเป็นภาพยนตร์ Netflix Original เรื่องแรกของ GDH ที่ฉายเฉพาะใน Netflix ด้วย ซึ่งนอกจากว่าจะมีข้อดีตรงที่ชมได้ทั่วโลกแล้ว ส่ิงที่หนังเรื่องนี้มีความแตกต่างอย่างชัดเจนก็คือ การดันเรตติงขึ้นไปถึง 18+ ทั้งภาพโหด ๆ และภาพความรุนแรงต่าง ๆ ใส่ในหนังแบบจัดเต็มได้กว่าหนังเรื่องอื่น ๆ ของ GDH ที่เคยมีมา รีวิวหนังไทย

จริง ๆ พอได้ยินจั่วหัวว่าหนังเรื่องนี้เป็น “หนังผีสายวิทย์” แค่ทีเซอร์ก็น่าสนใจแล้วแหละ บวกกับความเป็น GDH ที่ขึ้นชื่อเรื่องการเคี่ยวกรำบทหนังแบบเข้มข้น รวมถึงการเจอกันครั้งแรกของ 2 นักแสดงแห่งนาดาวอย่าง ‘ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร’ ในบท ‘หมอวี’ หมอสุดเนิร์ดที่มีปมบางอย่างในใจ ‘ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต’ ในบท ‘หมอกล้า’ หมอมาดเท่ที่มีโปรเจกต์ลับที่อยากจะทดลองอะไรบางอย่างเกี่ยวกับวิญญาณและโลกแห่งความตาย และ ‘ณิชา-ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์’ กับการเล่นหนังครั้งแรกในบท ‘ใหม่’ แฟนหมอกล้า

ถ้าว่ากันด้วยเรื่องของธีม หรือแก่นเรื่อง จริง ๆ ต้องบอกว่ามันมีความน่าสนใจและมีความเท่ในตัวของมันเองอยู่แล้วนะครับ แล้วมันก็สัมผัสได้ตั้งแต่องก์แรก ที่เราจะได้เห็นความแตกต่างระหว่างมุมมองเกี่ยวกับวิญญาณ ไสยศาสตร์ที่แตกต่างกันของทั้งคู่ โอเค แม้ว่าตอนปูเรื่องแรก ๆ จะแอบรู้สึกยุกยิกกับการคุยอะไรเนิร์ด ๆ ไปบ้างกว่าจะปูเข้าเรื่องว่ามีโปรเจกต์ลับ ๆ เพื่อทดลองการปรากฏตัวของวิญญาณ และหวังว่าจะเป็นโปรเจกต์ที่ตีพิมพ์ในวารสารการวิจัยระดับโลก มันก็ค่อนข้างจะมีอะไรให้รู้สึกคันหัวใจยุบยิบอยู่เหมือนกัน

2

ตั้งแต่ในองก์แรก เราจึงจะได้เห็นการวางโครงคร่าว ๆ การสร้างโลเกชันหลักอยู่ในที่ที่ (ว่ากันว่า) วิญญาณเยอะสุด ๆ อย่างโรงพยาบาล (เพราะคนตายทุกวันและมีห้องดับจิต) และการอธิบายอธิบายเหตุผลในทางวิทยาศาสตร์ว่า “ผีมีจริงไหม?” “ถ้าผีมีจริง มีอะไรที่จะวัดได้ไหม” และ “ถ้าผีมีจริง จะปรากฏตัวได้อย่างไร เมื่อไหร่?” ในองก์แรกอย่างชัดเจน รวมถึงเคมีที่เข้ากันของไอซ์และต่อ ที่แม้ว่าอายุจะห่างกันพอสมควร แต่ก็เรียกได้ว่าดูมีความเข้าขากันในระดับที่น่าสนใจ ทั้งหมดนี้จึงทำให้ในองก์แรกนั้นมีสถานะเป็นหนังแนวลี้ลับ ผสมสืบสวนสอบสวน (มีคอมเมดี้แทรกเล็กน้อย) ที่ดูพอจะเข้าใจในเจตนาและวิธีการของตัวละครได้ในระดับหนึี่งเลยทีเดียว รวมถึงความพยายามในการประคับประคองประเด็นความเชื่อระหว่างพุทธกับผี จนเรียกได้ว่าดูแล้วนึกถึง ‘ฉลาดเกมส์โกง’ (2560) ได้ในแวบหนึ่งเหมือนกันนะ

แต่พอเข้าสู่องก์ที่สอง ดูเหมือนว่าตาชั่งในการประคับประคองความเชื่อทั้งสองฝั่งเริ่มก็เริ่มจะเสียสมดุล เพราะกลับพบว่า บทเริ่มกลับพาออกไปไกลจากหลักวิทยาศาสตร์หล่อ ๆ ที่สองหมอหนุ่มหล่ออุตส่าห์ปูเรื่องไว้ให้อย่างดี เพราะแม้ว่าตัวละคร โดยเฉพาะต่อ ธนภพ (ที่กำลังจะเข้ามาแบกหนัง) และตัวหนังเองก็มีปมระทึกขวัญในระดับที่ไม่ควรสปอยล์เป็นอย่างยิ่งอยู่ แต่ดูเหมือนว่าหน้าหนังและเนื้อหาในองก์แรก ที่เข้าใจว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นการ “เอาวิทยาศาสตร์ไปหาผี” กลับกลายเป็นว่าในองก์นี้ กลับเริ่มเอา “ผีโน้มกลับมาหาวิทยาศาสตร์” (และความเชื่อในทางพุทธ/ผี) ไปเสียอย่างนั้น

จนทำให้เราแทบสัมผัสหลักการต่าง ๆ แทบไมไ่ด้เลยว่า ผีจะกลับมาด้วยทฤษฏี วิธีการ หรือปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์ให้เราเชื่อได้ว่า “ผีมีจริง” ได้ยังไงกันแน่ นอกจากจะใช้ “บางสิ่งบางอย่าง” เอามาเป็น “เครื่องสังเวย” และ “ร่างทรง” ให้กับวิญญาณที่มีห่วงได้ใช้อาศัยในการสื่อสาร เป็นการนำเอาความเชื่อทางพุทธ/ผี รวมถึงความผูกพันในแง่ของความรัก ความแค้น การมีห่วงผูกพัน รวมถึงประเด็นของวิญญาณที่วนเวียนไม่ไปไหน วิญญาณเข้าฝัน ฯลฯ มาครอบด้วยมุมมองทางวิทยาศาสตร์ที่ดูจะเบาบางลงเรื่อย ๆ ในขณะที่เรื่องดำเนินไปเท่านั้นเอง รวมถึงบางประเด็น และบางเรื่องราวที่ยังอธิบายได้ไม่สุด ไม่เคลียร์ รวมถึงบางประเด็นที่ถูกทิ้งขว้างไปแบบดื้อ ๆ เสียอย่างนั้น ทั้งหมดนี้กลายเป็นความ “เบี้ยว” ที่ต้องใช้การแสดงของ ‘ต่อ ธนภพ’ ออกแรงแบกกันหนักหน่อย ดูหนังออนไลน์

การแสดงของทั้งสองหนุ่มถือได้ว่าเคมีเข้ากันเป็นอย่างดี (แม้ว่าบทจะทำให้การปูให้เห็นความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัวจะดู “มาช้า-ไปเร็ว” ไปสักหน่อยก็ตาม) แต่การแสดงของทั้ง ‘ไอซ์-พาริส’ และ ‘ต่อ-ธนภพ’ ถือว่าอยู่ในขั้นที่น่าพอใจครับ โดยเฉพาะการแสดงของ ‘ต่อ-ธนภพ’ ที่นอกจากจะแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างน่าประทับใจแล้ว การสร้างคาแรกเตอร์ “หมอวี” หมอเนิร์ดที่ค่อย ๆ หมกมุ่นและคุ้มคลั่งในการทดลองขึ้นทีละนิด ๆ ทั้งการพูด การแสดงท่าทางของต่อนั้น เรียกได้ว่า “สุด” มาก ๆ

เรื่องย่อ GHOST LAB

เริ่มเรื่องมาที่หมอคู่ซี้ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก อย่างหมอวีและหมอกล้า ต้องการที่จะทำการทดลองเกี่ยวกับการเห็นผี โดยใช้วิทยาศาสตร์มาตั้งสมมติฐาน ด้วยหมอกล้าต้องการที่จะพิสูจน์ในเรื่องของผีและโลกหลังความตายว่ามันมีอยู่จริง เพราะเคยเห็นพ่อของตัวเองที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสมัยที่เขายังเด็ก

ส่วนหมอวีนั้นไม่เชื่อเรื่องผีวิญญาณว่ามีอยู่จริง เพราะเมื่อลองตั้งข้อสันนิฐานตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ไม่มีความเป็นไปได้ จนเมื่อทั้งสอง อยู่เวรดึกและได้บังเอิญเจอกับผีที่ถูกไฟคลอกด้วยกัน ความคิดของหมอวีก็เปลี่ยนไป เขาร่วมมือกับหมอกล้าเพื่อทำการทดลองผี ค้นหาคำตอบเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย โดยที่ไม่ทันคิด หมอวีและหมอกล้า ได้ถลำลึกจนกู่ไม่กลับ ความอยากรู้อยากเห็น จนล้ำเส้นคนเป็น เล่นกับความตาย ที่พยายามจะทำให้ผีปรากฏตัวขึ้น และมันก็เป็นเหตุให้เขาทั้งสองต้องพบเจอกับเรื่องต่างๆ มากมาย ทำให้สูญเสียสิ่งต่างๆ และคนที่รักไปตลอดกาล

3

ควรค่าแก่การรับชมหรือไม่? บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เป็นหนังไทยเพียงไม่กี่เรื่องที่ทำออกมาได้แหวกแนวหนังสยองขวัญที่ผ่านๆ มา ด้วยพล็อตเรื่องที่น่าสนใจ การปูเรื่องและเล่าเรื่องในหนังทำได้ดีมีที่มาที่ไป การเลือกสถานที่การถ่ายทำก็สมจริงเลือกสถานที่ได้ดีอย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเสมือนเราได้ร่วมการทดลองและอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ ไปกับหมอวีและหมอกล้าด้วย

อย่างฉากที่ไปถ่ายคลิปเพื่อพิสูจน์ความจริงว่าผีมีจริงและเห็นถึงสิ่งของเคลื่อนย้ายได้นั้น ก็ทำออกมาได้อย่างตื่นเต้นและลุ้นไปตามๆกัน แม้จะไม่ใช่หนังที่เห็นผีที่สยองๆ น่ากลัวๆ ออกมาวิ่งไปมา ตามชื่อเรื่องที่น่าจะเกี่ยวกับผีๆก็ตาม ใครที่กลัวผีก็สามารถเปิดดูได้ แต่หนังก็ปูเรื่องมาแล้วว่าเป็นการฉีกกฏการทดลอง ซึ่งก็น่าจะเป็นแนวหนังที่มีการนำเอาวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง และหนังยังสอดแทรกด้วยคติสอนใจ จริยธรรมและศีลธรรมเข้ามาเสริมในตอนท้ายๆ

และที่ไม่กล่าวถึงเลยคงไม่ได้ ต้องชมเหล่านักแสดงนำทั้งหลาย เรื่องนี้นักแสดงแสดงออกมาได้ดี สมบทบาท ไม่มีที่ติเลยเชียว เรียกว่าสะกดคนดูได้อยู่มัด ฉากดราม่า หรือฟิลด์อารมณ์ชิวๆ ก็แสดงออกมาได้ดี ต่อ ธนภพ แสดงบทหมอเนิร์ดๆ ได้อย่างสมบทบาท เค้ามาเป็นหมอเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่

แต่สุดท้ายก็รักษาไม่ได้ต้องปล่อยให้แม่จากไป ส่วนไอซ์ พาริช แสดงบทหมอสุดเท่ห์ ผู้มีความกล้าได้กล้าเสีย และเป็นผู้เริ่มการทดลองผีเป็นคนแรก ส่วนณิชา แสดงเป็นใหม่คนรักของหมอกล้า เธอคอยอยู่เคียงข้างหมอกล้าเสมอและเป็นแฟนที่น่ารักมาตลอด ทางทีมงานได้เซ็ตเสื้อผ้า หน้าผม คอสตูมของเหล่านักแสดงออกมาอย่างตั้งใจ ด้วยการไปศึกษากับหมอจริงๆ ร่วมถึงจดจำพฤติกรรมของหมอมาด้วย แล้วยังมีนักวิทยาศาสตร์ที่ทางทีมงานได้ไปปรึกษาจนได้ข้อมูลของเหล่านักวิทยาศาสตร์ที่ได้เคยศึกษาเรื่องลี้ลับเอาไว้ ว่ามีความจริงจังแค่ไหน เห็นถึงความทุ่มเทของเหล่าทีมงานแล้ว การันตีได้เลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สนุกสมกับที่รอคอยแน่นอน รีวิวหนังไทย

นำแสดงโดย

ต่อ-ธนภพ รับบทเป็น หมอวี หมอวีเป็นตัวละครที่ไม่เคยเชื่อเรื่องวิญญาณเลย เพราะเขาทำงานด้านแพทย์มาหลายปีแล้ว อยู่ใกล้ชิดกับความDeadแต่ไม่เคยเจอGhostเลยสักครั้ง จนกระทั่งเขาได้เจอผีครั้งแรกกับหมอกล้า เพื่อค้นหาและพิสูจน์คำตอบเขาจึงเข้าร่วมทดลองล่าแสงเหนือ โปรเจกต์ของหมอกล้าควบคู่กับการดูแลแม่ที่ป่วยติดเตียงไปด้วย

ไอซ์-พาริส รับบทเป็น หมอกล้า โปรเจกต์ล่าแสงเหนือของหมอกล้าเริ่มเกิดขึ้นหลังจากที่เขามีความฝันอยากจะขึ้นปกนิตยสารเอ็กซ์เพริเมนต์ หมอกล้าเป็นตัวละครที่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ เขาเป็นต้นเรื่องที่อยากจะพิสูจน์หาคำตอบและหาวิญญาณมาร่วมทดลอง

4

ณิชา-ณัฏฐณิชา รับบทเป็น ใหม่ แฟนสาวของหมอกล้าที่คบหากันมาหลายปีแต่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับหมอกล้าเลย หลังจากที่เกิดเรื่องบางอย่างก็ทำให้ใหม่พยายามค้นหาคำตอบของเรื่องราวที่เกิดขึ้น

นอกจากบทหนังตั้งแต่ต้นจนถึงกลางเรื่องที่ว่าดี ปูปมเรื่องผีผูกเข้ากับวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ ก็ยังมีด้านการแสดงของตัวละครที่เรารู้สึกว่าควรตามไปดูค่ะ นักแสดงแต่ละคนตีโจทย์ ทำการบ้านออกมาได้ดีจริง ๆ นะ เราอยากให้ทุกคนไปรับชมกันเยอะ ๆ ไม่อยากให้เทเพราะบทเลย หลายคนทุ่มเทกับบทมากเลยจากที่เราดูมา โดยเฉพาะ ต่อ-ธนภพ พี่เขาสุดยอดมากก แบกหนังทั้งเรื่องแถมยังทำออกมาได้น่าประทับใจสุด ๆ ส่วน ไอซ์-พาริช ก็พัฒนาการแสดงได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ เลย แล้วก็ยังมี ณิชา มาเสริมความน่ารักให้กับเนื้อเรื่องด้วยน้า

Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี: หนังผีที่เต็มไปด้วยความแปลกใหม่สมคำร่ำลือ ที่มาพร้อมครึ่งแรกที่ดีงาม แต่พังทลายในครึ่งหลัง

ผลงานการร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง GDH และ Netflix ที่นอกจากนั้นหนังก็ยังใช้คำโปรโมทสุดน่าสนใจว่า “หนังผีสายวิทย์” เรื่องแรกของไทย โดยหนังเรื่องนี้ก็เป็นผลงานการกำกับเรื่องล่าสุดของ กอล์ฟ-ปวีณ ที่เคยทำหนังผีจิตวิทยามาแล้วใน บอดี้ ศพ 19

โดยครั้งนี้เขาก็ยังมาพร้อมกับสไตล์งานที่ถนัดด้วยการทำหนังผี ที่ไม่เน้นความสยอง ความหลอนแบบไทย ๆ แต่มาแบบสยองขวัญอารมณ์หนังฮอลีวูด ด้วยองค์ประกอบโดยรวมเหล่านี้ทำให้ Ghost Lab เป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่ทั้งคอหนังสยองขวัญ หรือแฟนหนังทั่วไปต่างให้ความหวัง ความสนใจไว้พอสมควร

ถ้าจะบอกว่า Ghost Lab เป็นหนังผีแนวใหม่ ก็ต้องยอมรับว่าพลอตของเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างใหม่สำหรับหนังไทย ทั้งในด้านความเป็นไซไฟ และสยองขวัญ หนังสร้างคาแรคเตอร์ และเงื่อนไขของตัวละครออกมาได้แตกต่างจากหนังเรื่องอื่น ๆ ที่สองตัวเอกเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทำให้แทนที่เราจะได้เห็นสองตัวละครนี้เห็นผี

เรากลับได้เห็นตัวละครเดินหน้าเข้าหาผีแบบไร้ซึ่งความหวาดกลัว พร้อมทั้งหนังก็ยังใส่มุมมองของวิทยาศาสตร์เข้าไปแบบจัดเต็ม มีการอ้างอิงสมมติฐาน หลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มีต่อเรื่องผี ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้เมามันส์ ชวนติดตาม โดยตลอดครึ่งแรกของหนังได้มีการค่อย ๆ ไต่ระดับความสนุก ความเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จนคนดูสามารถรู้สึกถึงพลังความคิดสร้างสรรค์ และการเล่าเรื่องที่มีพลังของผู้กำกับ

สำหรับความน่ากลัวของหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่หนังผีที่มาทรงผีไทยเหมือนที่ผ่านมา หนังแทบไม่มีฉากผีสยดสยองให้ได้เห็นมากนัก เนื่องจากหนังจะเน้นไปที่ความเป็นวิทยาศาสตร์ การทดลองเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามหนังก็ยังเต็มไปด้วยฉากตุ้งแช่ สไตล์ GDH ที่มีจังหวะให้ได้สะดุ้งกันเป็นพัก ๆ ตัวผีในเรื่องค่อนข้างมีความเป็นผี CGI หรือผีแบบยอดมนุษย์ ซึ่งเป็นลายเซ็นของตัวผู้กำกับ

5

แม้ว่าครึ่งแรกของ Ghost Lab จะทำออกมาได้น่าติดตาม ชวนสนุก และใหม่เพียงใดก็ตาม แต่ทว่าปัญหาของเรื่องคือครึ่งหลังของเรื่องที่ทุกอย่างดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่าทางทีมเขียนบทต้องรีบตัดหนังให้จบภายใน 2 ชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ประเด็นของหนังยังเหลืออีกมากมายให้ได้เล่า ทำให้สิ่งที่ได้ในครึ่งหลังคือการกระทำต่าง ๆ ของตัวละครที่ค่อย ๆ ไร้เหตุและผลลงเรื่อย ๆ ความเป็นวิทยาศาสตร์ของหนังก็เริ่มลดลง

ก่อนที่ท้ายที่สุดหนังจะทำลายตัวเองใน 30 นาทีสุดท้ายด้วยการกลับสู่หนังผี วิญญาณอาฆาต ตามสูตรเดิม ๆ แต่เพิ่มเติมคือความไม่สมเหตุสมผลมากมาย ที่มันชวนย้อนแย้งกับครึ่งเรื่องก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตามแม้ว่าหนังจะมีครึ่งหลังที่ค่อนข้างเลวร้าย และไม่น่าจดจำ แต่สิ่งที่น่าชื่นชมอย่างปฎิเสธไม่ได้คือการแสดงของ ต่อ-ธนภพ ในบท หมอวี ที่สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม ในเรื่องนี้เราจะได้เห็น ต่อในบทหมอผู้ขี้อาย แสดงความรู้สึกไม่เก่ง

แต่ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวละคร หมอวีต้องเผชิญ มันได้ค่อย ๆ ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีอารมณ์แปรปรวน พร้อมทั้งการดิ้นรนเพื่อความอยากรู้อยากเห็นแบบถึงขั้นสุด ทำให้เราได้ค่อย ๆ เห็นความคลั่งของ หมอวีที่ไล่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่ง ต่อก็สามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถตรึงคนดูไว้กับหนังจนจบเรื่องได้แม้ว่าช่วงท้ายจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม

โดยรวม Ghost Lab ถือว่าเป็นหนังไทยที่ให้อารมณ์ต่างจากหนังผีไทยเรื่องอื่น ๆ สมกับคำโฆษณา หนังเต็มไปด้วยพลังแห่งการสร้างสรรค์ การนำเสนอจากมุมมองวิทยาศาสตร์ ที่ให้ความสนุกที่ต่างจากหนังแนวเดิม ๆ ที่ผ่านมา แต่น่าเสียดายที่พลังความสร้างสรรค์เหล่านั้นกลับอ่อนลงในช่วงกลางเรื่องไปจนถึงท้ายเรื่อง

ทำให้แทนที่หนังจะสามารถนำเสนอการทดลองที่ตื่นเต้น ชวนลุ้นไปจนจบ แต่ภาพที่ออกมาคือความน่าผิดหวัง เหมือนการทดลองที่ล้มเหลวกลางทาง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร หนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งการทดลองในด้านภาพยนตร์ ที่คุ้มค่า และได้สร้างอะไรใหม่ ๆ ให้กับวงการหนังไทยไม่มากก็น้อย

รีวิว ความคิดเห็นหลังจากที่ชม

ด้านของบทหนังสำหรับความคิดเห็นของเรานะคะ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงกลางเรื่อง หนังมันน่าสนใจมาก ๆ ที่เอาประเด็นของผีมาเชื่อมกับวิทยาศาสตร์ แต่พอหลัง ๆ เราแอบผิดหวังอยู่นิดหนึ่งค่ะ จากวิทยาศาสตร์ที่ปูมามันหายแวบไปเลยกลายเป็นบทหนังวิญญาณที่ไม่ต่างจากเรื่องอื่น ๆ เลย ถามว่าสนุกไหม ?

ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรเลย ก็สนุกอยู่ค่ะ ด้านนักแสดงก็ดี จัดเต็มแบบไม่กั๊ก ด้านโปรดักแสงสีเสียง สถานที่ถ่าย เทคนิคการถ่ายทำและการตัดต่อ เมคอัป และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยรวมแล้วดี ดีจริง ๆ ไม่ได้โม้เลยนะ แต่น่าเสียดายตรงบทครึ่งหลังและความไม่สมเหตุสมผลของตัวละครที่ดูแล้วชวนให้ตั้งคำถามต่าง ๆ มากมาย

6

GHOST LAB ฉีกกฎทดลองผี โดยภาพรวมแล้วก็ถือว่าเป็นการนำเสนออะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่กว่าหนังผีโดยทั่วไป แต่หากมองในมุมของหนังผี กลับกลายเป็นว่าทำได้ไม่ดีนัก แต่ในทางกันข้าม หนังเขาทำได้ดีในแง่ที่ว่า สามารถทำให้เราเห็นว่า การไตร่ตรองะละความหมายของการมีชีวิตนั่นแหละคือสิ่งสำคัญที่สุด

บทส่งท้าย

Ghost Lab ฉีกกฏทดลองผี เป็นหนังที่ดูสนุกในระดับหนึ่งเลย ดูได้เพลินๆ ตามสไตล์หนัง GDH ที่ทุกท่านก็รู้กันดีว่าทำหนังผีออกมาได้หลอนดี หนังทำให้เราร่วมลุ้นและสะดุ้งอยู่บ่อยๆ หยิบยกเอาคำถามในใจของใครหลายๆ คนมาเล่น อย่างคำถามที่ว่า โลกหลังความตายนั้นมีอยู่จริงหรอ และทำออกมาให้เราได้เห็นภาพจริงๆ ทั้งทีมงานมีความตั้งใจสร้างผลงานนี้มาก ด้วยการรีเสิร์ซข้อมูลมากมาย และได้ทำการปรึกษาและเข้าไปใกล้ชิดกับทีมหมอที่ทั้งเชื่อเรื่องผีและไม่เชื่อเรื่องผีเลย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวละครในเรื่องนั้นมีตัวตนอยู่จริงในชีวิตจริง แม้จะไม่ได้คำตอบว่าโลกหลังความตายมีอยู่จริงหรือไม่ แต่หนังก็ทำให้เราได้เห็นถึงสัจธรรมการใช้ชีวิตและสิ่งรอบตัวและคนรอบตัวเรานั้นมีค่า มีความสำคัญ แอดมินบอกได้เลยว่าอยากให้ทุกคนได้ดู เพราะเรารีวิวหนังสนุกๆ เพื่อเป็นแนวทางให้กับทุกคนก่อนการตัดสินใจ และหนังเรื่องนี้ยังได้คะแนนจากเว็บไซต์รีวิวหนังหลายๆ เว็บไว้ สูงมาก แม้คะแนนจาก IMDB จะได้แค่ 5.2 ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นัก ก็คงแล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งหนังเรื่องนี้คงถูกใจคนไทยหลายๆคนอยู่แล้ว รีวิวหนังตลก

เอาหละค่ะอย่ารอช้า ไปร่วมลุ้นเอาใจช่วยกับบทสรุปของภาพยนตร์เรื่องนี้กัน ว่าหมอวี ซึ่งเป็นคนที่เชื่อในเรื่องวิทยาศาสตร์ทำอะไรมีหลักการ กับหมอกล้าที่เป็นคนเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ เมื่อสองความเชื่อที่ต่างกันสุดขั้วต้องมาเจอกัน บทสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ประตูความลับแห่งจักรวาลที่พูดถึงในหนังจะเปิดขึ้นต่อหน้าจริงหรือไม่ ใครจะสามารถหยุดความอยากรู้อยากเห็น การล้ำเส้นของเขาทั้งสองลงได้ ต้องไปติดตามกันเองนะคะ ใน Ghost Lab ฉีกกฏทดลองผี ทางช่อง Netflix สำหรับวันนี้แอดมินต้องขอตัวลาไปก่อนนะคะ

7
  • ชื่อเรื่อง : Ghost Lab ฉีกกฎทดลองผี
  • ผู้กำกับ : ปรีณ ภูริจิตปัญญา
  • ผู้เขียนบท : ปรีณ ภูริจิตปัญญา, วสุธร ปิยารมณ์, ทศพร เหรียญทอง
  • นำแสดงโดย : ธนภพ ลีรัตนขจร, พาริส อินทรโกมาลย์สุต, ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์
  • ระดับความเหมาะสม :18+
  • หมวดหมู่ :สยองขวัญของไทย, ระทึกขวัญ
  • ระยะเวลา :1ชั่วโมง57นาที
  • ปีที่ฉาย :2021
  • คะแนนเนื้อหา :8
  • สามารถรับชมได้ที่ :Netflix รับชมผ่านกล่อง TrueID TV

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *