รีวิว ตุ๊ดตู่กู้ชาติ
หนังไทยใหม่ล่าสุด กลับมาเรียกเสียงฮากันอีกแล้วกลับภาพยนตร์อีกเรื่องของผู้กำกับมากฝีมืออย่าง พชร์ อานนท์ ซึ่งเรื่องนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ฟอร์มยักษ์ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ เคยทำมาเลยก็ว่าได้ สำหรับ ตุ๊ดตู่กู้ชาติ หนังแอคชั่นคอมเมดี้อันเป็นผลงานล่าสุดที่นอกจากจะใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึง 2 ปี ยังเป็นหนังที่ถือว่าเป็นการทำงานหนักที่สุดของผู้กำกับอีกด้วย (เขาบอกมาแบบนั้น) แถมได้นักแสดงมากหน้าหลายตามาร่วมงานอีกเพียบ อาทิ หม่ำ จ๊กมก, ติ๊ก กลิ่นสี, โก๊ะ ตี๋ อารามบอย, โย่ง อาร์มแชร์, สงกรานต์ เดอะวอยซ์ ฯลฯ
สปอยหนังไทย ถ่ายทำกันยาวนานถึง 2 ปี กับเรื่องตุ๊ดตู่กู้ชาติ ของพี่พจน์ อานนท์ ที่ภูมิใจเสมอ ก่อนหน้านี้มีตัวอย่างออกมาก็เป็นแบบหนังพีเรียด หลายคนคาดหวังว่าจะออกมาฮา แต่พอดูจริง ๆ คือเปิดฉากมา ก็พบกับบทเพลงทำนองย้อนยุค ประมาณว่ากระแสบุพเพสันนิวาสกำลังมาแรง เลยขอเอาซะหน่อย ใส่เพลงมาซะยืดยาว ประกอบกับฉากหนังที่ดูแล้วมันปลอม ๆ และยังเล่นใหญ่ถึงขั้น มีใช้โดรนถ่ายเป็นภาพมุมสูงเพียบเลย ยังกะโฆษณาการท่องเที่ยว เออก็แปลกดี เป็นกิมมิคสีสันของเค้ามั้ง ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี
รีวิว ตุ๊ดตู่กู้ชาติ
รีวิว ตุ๊ดตู่กู้ชาติ เป็นภาพยนตร์ที่แต่งขึ้นมาใหม่ไม่อิงประวัติศาสตร์ โดยเล่าเรื่องของหมู่บ้านคุ้งระกาที่กำลังโดนกองทัพของเมืองยโสธาราวดีใช้เป็นทางผ่าน เพื่อไปตีเมืองหลวงของไทยอย่างเมืองอโสรยา แต่คนกลุ่มชายใจหญิงพร้อมพรรคพวกชายแท้ในหมู่บ้านคุ้งระกาต่างก็อาสาออกไปเป็นสายลับให้ถึงเมืองยโสธาราวดี เพื่อสืบความว่ากองทัพข้าศึกจะเดินทางมาเมื่อใด โดยหวังว่าจะใช้ข้อมูลที่ได้มาช่วยให้หมู่บ้านของตน และประเทศชาติยังคงอยู่สืบไปตราบนานเท่านาน
เมื่อกองทัพ ยโสธราวดี กำลังจะบุก อโสรยา ทำให้หมู่บ้านคุ้งระกา จำต้องเตรียมการรับศึกและทำให้ แฟง (เพชรทาย วงคำเหลา) เดือน (เจริญพร อ่อนละม้าย) หอม (ชาญณรงค์ ขันฑีท้าว) ก้อน (นพดล ทรงแสง) และ สร้อย (น้องบิว ขาวคง) กะเทย 5 นางประจำหมู่บ้านจึงอาสาไปแทรกซึมในกองทัพศัตรูเพื่อสืบแผนการรบของศัตรู งานนี้เหล่ากะเทยจะพิสูจน์ความรักชาติและสามัคคี
เรื่องย่อ
เรื่องราวของหมู่บ้านคุ้งระกาหมู่บ้านนอกเมืองหลวงที่มีวิถีชีวิตแบบบ้าน ๆ ทำนาทำไร่เลี้ยงช้างตามภาษาชาวบ้านธรรมดา แต่ที่ทำให้หมู่บ้านคุ้งระกาดูไม่ธรรมดาก็เพราะมีชายไทยหัวใจหญิงอย่าง ป้าแฟง(หม่ำ ม๊กจ๊ก) ,เดือน(โก๊ะตี๋ อารามบอย) ,ทองหอม(ติ๊ก กลิ่นสี) ,ทองก้อน(จิ้ม ชวนชื่น) และสร้อย(น้องบิว ขาวคง) ที่คอยสร้างสีสันให้กับหมู่บ้านแห่งนี้
แต่ความสุขมักจะอยู่ได้ไม่นานเมื่อทัพของ มังตราบุเรง(ฟิล์ม รัฐภูมิ) ลูกชายของพระเจ้าอโนรธา ปะละมินถิ่น(ตู่ นพพล) เจ้าเมืองยโสธาราวดี ได้หวังยกทัพมาตีเมืองอโสรยาเมืองหลวงของไทย แต่ทว่าการที่จะเข้าตีเมืองอโสรยาได้นั้นทัพของมังตราบุเรงจำเป็นต้องผ่านทางหมู่บ้านคุ้งระกาที่ตั้งขวางทางอยู่
ทำให้หมู่บ้านคุ้งระกาตกอยู่ในอันตราย เมื่อพ่อใหญ่แห่งหมู่บ้านคุ้งระการู้ข่าวจึงเรียกชาวบ้านมาประชุมเพื่อหาอาสาสมัครไปสืบความ ที่เมืองยโสธาราวดีว่ากองทัพจะยกทัพมาตีหมู่บ้านของตนเมื่อใด ชาวบ้านเมื่อได้ฟังต่างเกี่ยงกันไม่มีใครอาสา มีเพียงกลุ่มของป้าแฟงชายไทยหัวใจหญิงที่ขออาสาทำเพื่อประเทศชาติไปสืบความที่เมืองยโสธาราวดี
แต่ถ้าจะไปกันแค่กลุ่มของป้าแฟงอาจทำไม่สำเร็จพ่อใหญ่จึงให้ ไกล(โย่ง อามแชร์) ,บุญถึง(โตส อัครัช) และแสง(สงกรานต์ รังสรรค์) ไปช่วยอีกแรง แล้วทั้งกลุ่มก็ออกเดินทางไปยังเมืองยโสธาราวดี โดยการปลอมตัวเป็นทหารของทัพยโสธาวดีที่กำลังเดินทัพกลับเมือง เมื่อไปถึงเมืองยโสธาราวดีกลุ่มของป้าแฟงก็แอบไปอยู่ในกลุ่มของนางรำเพื่อจะได้เข้าถึงตัวของมังตราบุเรงได้โดยง่าย
ส่วนคนที่เหลือก็ได้แอบไปสืบความกับเหล่าทหาร หลังจากที่ได้แยกย้ายกันไปสืบความ ในที่สุดพวกเขาก็ได้รู้วันยกทัพของเมืองยโสธาราวดี ที่จะบุกมาตีหมู่บ้านของพวกเขา แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะหนีกลับไปบอกความลับที่รู้มา พวกเขาก็ถูกจับได้เสียก่อน แล้วพวกเขาจะกลับไปช่วยหมู่บ้านของตนได้สำเร็จหรือไม่ มาเอาใจช่วยพวกเขาได้ใน “ตุ๊ดตู่กู้ชาติ” ตุ้ ด ตู่กู้ชาติ
ความรู้สึกหลังรับชม
การเล่าเรื่องสำหรับเรื่องนี้ต้องกล่าวตามตรงว่าแย่มากครับ ถือว่าเป็นหนังพีเรียดและตลกที่ทำออกมาได้น่าผิดหวัง ทั้งด้านเนื้อหาสาระ(ที่พยายามจะมี) และด้านความตลกขบขันอย่างกู่ไม่กลับ เป็นเรื่องแรกของพี่ พชร์ อานนท์ เลยที่เรารู้สึกว่าการทำงานโดยไม่มีการโยงบทไปยังฉากต่อไปนั้นมันแย่มาก และไม่เข้ากับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างหนัก หลายฉากจู่ ๆ ก็มีเหตุการณ์บางอย่างโผล่มาโดยไม่มีการเกริ่นนำ บางตัวละครจู่ ๆ ก็ปรากฏตัวเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่มีการต่อยอดใด ๆ จากฉากก่อนหน้าเลยด้วยซ้ำ
ตัวละครในเรื่องแต่ละตัวก็แข็งกระโตกกระตาก ตรงไปตรงมา ขณะที่บางตัวก็พยายามทำให้ดูมีมิติ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้คุณภาพเรื่องยิ่งแย่ จู่ ๆ ก็มีการเปลี่ยนฝั่งเปลี่ยนฝ่ายทันควันในบางฉาก แถมยังไม่มีใครเอะใจใคร่สงสัยกับการที่จู่ ๆ ก็มีคนอีกฝั่งเข้ามาร่วมทีมด้วยเลย
แถมนี่ยังเป็นภาพยนตร์ที่พาเราออกทะเลหลายฉากมากมาย หลายฉากรวบจบได้ก็ไม่รวบ เพราะประเด็นเรื่องไม่เดินหน้าเสียทีจนไม่รู้ว่าเรากำลังติดตามดูอะไรกันอยู่ แต่พอเลือกจะเล่าแบบไม่รวบแล้วเราก็คิดว่าใส่ฉากมาเพื่อหวังความฮาก็ยังดี แต่ก็ดันเป็นฉากที่ดูไม่สนุกอีก
การจะผ่านแต่ละฉากที่ไร้แก่นสารโยงเรื่องใด ๆ ก็เลยเต็มไปด้วยความทรมานแสนสาหัสที่ทำผมส่ายหัวไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาวนาว่าเมื่อไหร่จะจบ เพราะมันยืดจนเกินไป เกินความจำเป็น เกินใจจะทนไหวพอมาถึงเรื่องมุขตลกที่เราว่าไม่เวิร์คนั้น หลายครั้งเรารู้สึกว่าเป็นเพราะจังหวะการตัดต่อนั้นยืดยาดและเหนื่อยหน่ายเกินไปมาก และบ่อยครั้งเราก็รู้สึกว่าทางคนเล่าเรื่องนั้นดูจะเลือกจังหวะเรื่องไม่ถูกในแต่ละฉากว่าจะลื่นไหลชดช้อยงามดั่งไทย หรือจะสนุกสนานเฮฮา หรือจะพีคขึ้นมา
บางครั้งมุขตลกก็เลยไม่ทำงานเพราะดันมาเล่นขัดกับอารมณ์ภาพรวมของฉาก และปัญหาด้านนี้อาจรวมไปถึงการไกด์จังหวะของเพลงที่ทำได้ไม่ดีด้วยอีกเหมือนกัน แล้วตัวภาพยนตร์เองก็เหมือนถ่ายมาไม่พอ หรือเก็บมุมภาพเพื่อเล่าเรื่องการกระทำของตัวละครไม่ชัดเจน ก็เลยทำให้มุขหลายมุขเล่นไปไม่ถึง เพราะเราไม่ได้เห็นสีหน้าและการกระทำของตัวละครแต่ละตัวว่าเขาทำอะไรทำไมถึงโดนเพื่อนตบหัวแบบคาเฟ่ฉาดใหญ่ พอตัวละครที่ตบหัวเฉลยว่า ทำไมถึงต้องตบหัวอีกคน แทนที่ผมจะกระจ่างและเข้าใจมุขกลับทำให้ยิ่งมึนเข้าไปอีก เพราะจำได้ว่าก่อนหน้าก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรตรงจุดนี้ให้ดู และภาพก็ไม่ได้ไปเน้นด้วย ตุ๊ก ตู่ กุ้ ชาติ เต็มเรื่อง 2 ทีวี ออนไลน์
รีวิว ตุ๊ดตู่กู้ชาติ
รีวิว ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ด้วยหน้าหนังและเพลงประกอบที่ปล่อยมาก่อนหน้านี้ บอกตามตรงว่าผมอดคาดหวังความสนุกจากหนังเรื่องนี้ไม่ได้ ลำพังนักแสดงตลกแถวหน้าของเมืองไทยทั้งพี่หม่ำ พี่ติ๊ก กลิ่นสี พี่โก๊ะตี๋ หรือน้าจิ้ม ชวนชื่น ก็ล้วนเป็นตลกที่รับประกันความฮาจากผลงานที่ผ่าน ๆ มาได้ในระดับหนึ่ง
แต่จนแล้วจนรอด เอาแค่การสร้างคาแรกเตอร์กะเทย 4-5 นางที่ควรมีบทบาทเด่นและสร้างความฮา หนังก็สอบตกในมาตรฐานความแซ่บของเหล่ากะเทยในหนังของพี่ พชร์ อานนท์ โดยสิ้นเชิงแล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็น แฟง เดือน หอม หรือ ก้อน แทบไม่มีใครที่ถูกนำเสนอให้ออกมาเป็นกะเทยที่มีสีสันในระดับเดียวกับ หอแต๋วแตก ของพี่พชร์ได้เลย แถมหนังยังพยายามยัดเยียดแนวคิด ความรัก ความสามัคคี เพื่อชาติบ้านเมือง ผ่านการทะเลาะกันของเหล่ากะเทยก็ยิ่งทำให้หนังอยู่ในภาวะ ‘กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง’ จะเอาฮากลับกริบ เอาสาระกลับดูวอนนาบีจนชวนเพลียไปอี๊กด้านพี่หม่ำ
แม้จะเคยเล่นเป็นกะเทยใน คู่แรด (2550) มาก่อน แต่กับบทแฟง ที่เหมือนเป็นกะเทยหัวโจกก็ไม่ได้บทบาทอะไรนอกจาก ‘ทำท่า’ บ้าผู้ อย่าง แกร่ง (ชัยวัฒน์ ทองแสง) ควาญช้างที่หมั่นมาอ่อยให้อยากถึงหน้าเรือน ที่ผมมองว่ามาตรฐานพี่หม่ำเคยสูงกว่านี้ เคยกล้าเล่นกว่านี้ แต่นี่มันกลับออกมาดูเสแสร้งผิดมาตรฐาน นักแสดงตลกที่มีฝีมือทางการแสดงและกำกับหนังไปโดยสิ้นเชิง ด้าน พี่โก๊ะตี๋ ถามว่าเล่นดีมั้ย ‘ก็ดีแหละ’ แต่มันคือบทบาทที่ไม่ได้ฉีกภาพลักษณ์
แม้จะมีดราม่าเรื่องพ่อแม่ของเดือน แต่มันก็ไม่ได้มีพลังพอมาชดเชยกับมุกแป้ก ๆ ที่ตัวละครพยายามแค่นให้คนดูขำแต่อย่างดี การมีอยู่ของ พี่ติ๊ก กลิ่นสี ในบทหอมต่างหากที่น่าสนใจ เพราะผมไม่ได้เห็นพี่ติ๊กเล่นหนังมานานแล้ว ซึ่งก็ยอมรับนะครับว่าเห็นหน้าพี่ติ๊กก็ขำแล้ว แต่พอหนังดำเนินไปเรื่อย ๆ พี่เขากลับไม่มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอัน เดินไปเดินมา ยืนหลับ เล่นมุกปากเหม็น ทำอะไรเซื่อง ๆ ไอ้ที่หนังมันเอื่อยอยู่แล้ว แกยิ่งทำให้หนังดูยืดยาดหนักกว่าเดิมอีก
ส่วนน้าจิ้ม ชวนชื่น นี่น่าสงสารสุดเลย เพราะท้ายสุดเราแทบไม่เห็นลักษณะเด่นอะไรในคาแรกเตอร์ ก้อน เลยสักนิดเพราะแทบไม่มีช่องปล่อยมุกสร้างความเด่นอะไรเลย นอกจากพูดจาโวยวายไร้สาระไปวัน ๆ นี่เลยทำให้เราแทบไม่สามารถเกาะเกี่ยวตัวละครนำเพื่อพาเราไปพบความสนุกได้อย่างที่คาดหวังจากตัวอย่างได้เลย ตุ๊ดตู่ ก้ ชาติ เรื่อง ย่อ
บทสรุป
โดยภาพรวมแล้ว ตุ๊ดตู่กู้ชาติ จึงเป็นภาพยนตร์แนวโบราณแต่ไม่อิงประวัติศาสตร์ ที่ทำออกมาได้น่าผิดหวังมาก ๆ ถึงที่สุดและที่สุด เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีความหนักหนาสาหัสมาก ๆ เนื้อเรื่องไม่ดี การเล่าไม่ต่อเนื่องก็อีกเรื่อง แต่มุขตลกแทบจะไม่ทำงานเลยทั้งเรื่องนี่แย่มาก มันเลยทำให้สภาพตอนนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสยิ่งกว่า หลวงพี่แจ๊ส 4G และ 5G ทีเดียวเชียว
แต่งานด้านโปรดัคชั่นนี่ถือว่าสุด ๆ ทำออกมาดูได้ยิ่งใหญ่ อลังการ และสวยงาม งานด้าน Visual Effect ก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่ธรรมดาทีเดียว… จึงขอป่าวประกาศตรงนี้เลยว่าผมไม่แนะนำให้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้เท่าไหร่ถ้าคุณหวังงานภาพยนตร์ที่เต็มที่ในทุกด้าน (โดยเฉพาะการหวังว่าเนื้อเรื่องจะมีดีอะไรดีบ้าง)
แต่หากคุณเป็นแฟนหนังขาจร หาหนังพีเรียดดูเพลิน ๆ ตุ๊ดตู่กู้ชาติ ก็ลองดูเลยครับ เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งงานที่ดูพี่พชร์ตั้งใจทำทั้งการออกแบบฉาก และมุมกล้องที่ประหนึ่งโฆษณาการท่องเที่ยว ฉากไหนใช้โดรนถ่ายได้แกถ่ายหมด แม้ไม่ได้มีความหมายทางภาพยนตร์เลยก็ตาม เพียงแต่การเล่าเรื่องและบทหนังที่เหมือนถูกเติมมาเรื่อย ๆ จนหนังยาวเกินความจำเป็นและมุกที่ไม่เข้าเป้าที่ฉุดหนังให้ยืดยาดมากไปหน่อยเท่านั้นเอง หนัง ตุ ด ตุ่ กุ้ ชาติ