รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ หนังไทยใหม่ล่าสุด นับเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดทาง netfilx ที่พูดถึงเป็นอย่างมาก สปอยหนังไทย เรียกได้ว่าผู้เขียนไม่ว่าจะเข้า ig facebook หรือ youtube ก็เจอแต่ รีวิว รีวิว แล้วก็ รีวิว อีกนั่นแหละครับ ฮ่า ๆ สำหรับเรื่อง The School for Good and Evil (2022) หรือ “โรงเรียนแห่งความดี และ ความชั่ว” ดูหนังออนไลน์ เป็นภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Netflix ที่เริ่มสตรีมครั้งแรกในวันที่ 19 ตุลาคม 2022 กำกับ ดูหนังฟรี และ เขียนบทโดย Paul Feig ร่วมกับ Laura Solon และ David Magee ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนวนิยายขายดีของ Soman Chainani

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว โรงเรียนแห่งความดี และ ความชั่ว the school for good and evil ซับไทย ภาพยนตร์แฟนตาซีสุดอลังการ ต้อนรับเทศกาลฮาโลวีน 2022 ด้วยภาพยนตร์แฟนตาซีเรื่องล่าสุดจาก Netflix อย่าง The School for Good and Evil โรงเรียนแห่งความดีและ ความชั่ว ที่บอกเลยว่าสาวกงานแฟนตาต้องห้ามพลาด ซีจี และ ฉากอลังการดีต่อใจแบบสุด ๆ อีกเรื่องที่มาวินติดอันดับ 1 ใน Top 10 ได้อย่างคาดไม่ถึง

สำหรับ ‘The School for Good and Evil’ หรือในชื่อไทย ‘โรงเรียนแห่งความดี และ ความชั่ว’ หนังแนวเทพนิยายแฟนตาซีสายเวทที่ตอนนี้ถือว่ามาแรงมาก ๆ เพราะนอกจากจะขึ้นแท่นอันดับ 1 ของอันดับ Top 10 ใน Netflix ไทยแล้ว ล่าสุดตอนนี้ขึ้นไปติดอันดับยอดผู้ชมสูงสุดของ Netflix ทั่วโลกกว่า 89 ประเทศแล้วด้วย

ตัวหนังดัดแปลงมาจากซีรีส์หนังสือนิยายแฟนตาซีวัยรุ่น 6 เล่มในชื่อเดียวกัน ผลงานการประพันธ์ของ โซมาน ไชนานี (Soman Chainani) โดยหนังเรื่องนี้ดัดแปลงจากหนังสือเล่มแรกของชุดที่ตีพิมพ์ในปี 2013 ตัวหนังสือขายดีทั่วโลกมากกว่า 2,500,000 เล่ม ถูกแปลถึง 30 ภาษา แต่แปลกที่ยังไม่มีฉบับแปลภาษาไทยแฮะ แต่ฮิตขนาดนี้ผู้เขียนคิดว่าเดี๋ยวคงต้องมีแน่นอน

เรื่องย่อ

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

ว่าด้วยเรื่องของสองสาวเพื่อนซี้แห่งเมืองกัลวาดอน (Galvadon) ได้แก่ Sophie (รับบทโดย Sophia Anne Caruso) สาวสวยผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นเจ้าหญิงในนิยาย และ Agatha (รับบทโดย Sofia Wylie) ลูกสาวแม่มดผู้โดนสังคมรังเกียจ

ทั้งคู่ได้บังเอิญไปพบกับหนังสือเล่มหนึ่งที่ระบุถึง โรงเรียนแห่งความดี และ ความชั่ว (The School for Good and Evil) สถาบันการศึกษาที่ปลุกปั้นตัวละครต่าง ๆ ในนิยาย ทั้งฝ่ายดี และ ฝ่ายร้าย เช่น Snow White หรือ Cinderella และ Evil Queen และ เมื่อ Sophie ทราบเรื่องนี้

เธอจึงอธิษฐานให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในโรงเรียนนั้น เพื่อที่จะได้เรียนรู้การเป็นนางเอกแบบเต็มตัว และ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง ในช่วงค่ำ Sophie ถูกรับตัวไปยังโรงเรียนที่อยู่อีกมิติหนึ่ง แต่ Agatha รู้สึกเป็นห่วงเพื่อนจึงห้ามไม่ให้เธอไป

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด ทั้ง Sophie และ Agatha ก็ถูกนกยักษ์ลากตัวไปด้วยกัน และ จุดพลิกผันอยู่ที่ สาวน้อยรูปงามอย่าง Sophie ถูกส่งตัวไปที่อาคารเรียนของวายร้าย ส่วน Agatha ที่เป็นลูกสาวแม่มดก็ถูกส่งไปที่โรงเรียนแห่งคนดี

ความรู้สึกหลังรับชม

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

ขอแสดงความนับถือฝ่ายคอสตูมก่อนเป็นอันดับแรก the school for good and evil ซับไทย เพราะทุกชุดที่ตัวละครใส่ในแต่ละฉากนั้น บอกได้คำเดียวว่า “ปังมาก” ปังและอลังการเกินต้าน สมกับที่เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีจริง ๆ รับชมแล้วเหมือนได้หลุดเข้าไปยังโลกเหนือจินตนาการ

ด้าน CGI และ องค์ประกอบต่าง ๆ ก็สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นฉากในห้องเรียน ฉากริมน้ำ ฉากกลางป่า สวยงาม และ พาจินตนาการโลดแล่น สนุกมากครับ สนุกเกินคาด

สำหรับคนที่ชอบดูหนังจำพวกสืบสวนสอบสวนไม่ก็ปรัชญาชีวิตอย่างผม ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ผมมีศรัทธากับความแฟนตาซีอีกครั้ง ทั้งบทพูด ตัวละคร คอนเซ็ปท์ของเรื่อง บรรยากาศ โทนสี ทุกอย่างมันดีงามไปหมด

เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ช่วยเติมเต็มความฝันในวัยเด็กมาก ๆ ด้านการเล่าเรื่องแนว Coming of age การรับรู้ และ ยอมรับตัวตนของตัวเอง อีกทั้งเส้นแบ่งระหว่างความดี และ ความชั่วในเรื่อง ก็ทำให้ The School for Good and Evil เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีน้ำดีครองอันดับ 1 เทรนด์ภาพยนตร์ใน Netflix ไปโดยปริยาย

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว

รีวิว โรงเรียนแห่งความดีและความชั่ว แน่นอนว่า ความสนใจแรกคงหนีไม่พ้นการได้นักแสดงระดับท็อป the school for good and evil เข้าวันไหน มาร่วมงานกันแบบคับคั่งนะครับ แถมยังมี เคต แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) มารับหน้าที่ผู้เล่าเรื่อง (The Storian) หรือคุณปากกาขนนกที่คอยเขียนเรื่องราวในโลกของนิยายนั่นเอง

อีกความน่าสนใจก็น่าจะเป็นส่วนผสมของตัวเนื้อเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจนแหละว่าได้แรงบันดาลใจจาก แฮร์รี พอตเตอร์ (Harry Potter) และ หนังแนวเวทมนตร์ทั้งหลายแหล่ ผสานเรื่องราวแนวเทพนิยาย (Fairy Tales) แฟนตาซีแนวกอธิก (Gothic) ที่มีเจ้าชาย เจ้าหญิง ปีศาจ ภูติ โน่นนั่นนี่

รวมทั้งแนวคิดโลกคู่ขนาน และ Vibe เนื้อเรื่องแนวหนังดราม่าวัยรุ่น High School จริตเพื่อนสาวเข้ามาแจมด้วย

นั่นเลยเป็นทั้งจุดเด่น และ ข้อสังเกตตลอดความยาวหนัง 2 ชั่วโมงครึ่งของตัวหนังครับ จุดเด่นคงหนีไม่พ้นความดูง่ายนี่แหละ ตัวหนังไม่ได้มีอะไรซับซ้อนไปกว่า Vibe หนังแบบที่เราคุ้นเคย ทั้งหนังแนวเวทมนตร์ที่มีทั้งการผจญภัย เด็กที่ถูกเลือก ภูติผีปีศาจ และ หนังแนวไฮสคูลที่แฝงกายอยู่ในคราบของหนังแฟรีเทลที่มีโรงเรียน มีผู้หญิงบ้าน ๆ เป็นเด็กใหม่เด๋อด๋าที่อยากเป็นเจ้าหญิง มีเจ้าชายสูงศักดิ์เป็นหนุ่มป๊อป และ มีเพื่อนที่คอยบุลลีคอยแกล้ง

รวมทั้งประเด็นจากธีมของนิยายต้นฉบับที่ต้องการสื่อสาร (แกมจิกกัด) ความขาวจัดดำจัดในโลกเทพนิยาย ที่มักจะ Stereotype ตัวละครที่ดี และ ชั่วแบบทื่อ ๆ คนดี และ ความดีจะต้องชนะคนชั่ว และ ความชั่วเสมอ

รวมไปถึงรูปลักษณ์ หน้าตา การแต่งตัวที่แบ่งแยกว่าแบบไหนดีแบบไหนร้าย ส่วนโซฟีกับอกาธาก็ดูจะเป็นตัวสะท้อนถึงความเทา ๆ ของมนุษย์ทั้งในโลกจริง และ ในโลกนิยายว่า มนุษย์ปกติแล้วถ้าอะไรไม่ขาวก็ให้เหมาว่าเป็นดำไว้ก่อน

บทสรุป

โดยรวม ๆ แล้ว ‘The School for Good and Evil’ ‘โรงเรียนแห่งความดี และ ความชั่ว’ น่าจะเหมาะกับคอหนัง the school for good and evil แปลไทย สายเฟมินิสต์เพื่อนหญิง สายเทพนิยายกรีดกราย หรือคอการ์ตูนเจ้าหญิงดิสนีย์ คนที่ชอบหนังแนว ๆ นี้น่าจะดูสนุกครับ (และ แน่นอนว่าใครที่ไม่อินก็อาจจะชอบยากหน่อย) ถ้าดูแบบไม่คิดอะไรมากในการหนีสูตรสำเร็จด้วยการเป็นสูตรสำเร็จซะเอง และ พฤติกรรมของตัวละครที่ดูน่ารำคาญ และ ไม่ค่อยเข้าที่เข้าทาง

ก็ถือว่าดูแบบเพลิน ๆ ได้ล่ะนะครับ เพราะว่าคอสตูมเขาก็ออกจะสวยแฟนซี ซีจีก็ถือว่าไม่แย่เลย เป็นหนังดูง่าย ๆ เปิดให้ลูกหลานดูด้วยกันได้แบบไม่มีพิษภัย ส่วนสารที่อยู่ในเรื่องนี่อาจจะต้องให้พ่อแม่คอยสอนน้องอีกที เพราะมันหายไปกับครึ่งแรกของหนังแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น